กินผักครบรส อร่อยไม่ต้องพึ่งผงชูรส
รู้หรือไม่ว่าผักไทยๆ เรามีรสชาติที่หลากหลายมากถึง 9 รส ไม่ว่าจะเป็น 6 รสชาติพื้นฐาน คือ เปรี้ยว เค็ม หวาน ขม เผ็ด มัน และอีก 3 รสชาติที่เราอาจไม่คุ้นหูกันสักเท่าไหร่อย่าง หอมเย็น ฝาดเฝื่อน และเมาเบื่อ
กินผักสีมงคล
ใส่เสื้อสีมงคลจะมงคลจริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้ากินผักให้หลากหลายครบ 5 สีได้ยิ่งดีในทุกวัน รับรองว่ามงคลมาถึงชีวิตแน่ๆ เพราะสุขภาพร่างกายจะดีขึ้นเพราะได้รับวิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย ได้คุณประโยชน์มากมายจากผักหลากสีสัน อีกทั้งยังได้เพิ่มไฟเบอร์และกากใยที่ไปช่วยลำไส้ให้ทำงานแข็งขันอีกต่างหาก
ผักดิบ (ไม่) ดี
ถึงแม้ว่าการกินผักสดจะให้สารอาหารและวิตามินมากกว่า แต่ผักสดบางชนิดอาจมีสารพิษตามธรรมชาติ และเป็นอัตรายต่อร่างกายหากบริโภคมากเกินไป อย่างเช่น ผักดี 6 ชนิด ที่ต้องกินสุก จึงจะเกิดประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะเมื่อนำมาปรุงสุกจะช่วยลดสารพิษตามธรรมชาติ ที่อาจจะขัดขวางระบบการทำงานของต่อมต่าง ๆ และการดูดซึมสารอาหารบางชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย
กินผักกับน้ำพริกสิจ๊ะ
กินผักกับน้ำพริกช่วยต้านโรคกลุ่ม NCDs เพราะในน้ำพริกมีแคลเซียมสูง ช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดัน ส่วนในผักนั้นมีประโยชน์มากมาย เช่น ใบบัวบกลดความดัน ยอดสะเดาช่วยคุมเบาหวาน แตงกวา มะเขือ และกระเจี๊ยบ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด อีกทั้งขมิ้นยังช่วยป้องกันหลอดเลือดเสื่อม
มิกซ์แอนด์แมตช์ ผักผลไม้ให้ครบโดส
ในแต่ละวันเราควรจะต้องกินผักและผลไม้ให้ครบปริมาณ 400 กรัม จึงจะเพียงพอและเกิดผลดีต่อสุขภาพ เริ่มต้นง่าย ๆ อย่างน้อยเพียงกินผัก 3 อย่างกับผลไม้ 2 อย่าง สุขภาพก็ดี ร่างกายก็แข็งแรง
กินผักผลไม้เยอะๆ แต่ไม่รู้ต้องเยอะแค่ไหน
ในแต่ละวันเราต้องกินผักและผลไม้ให้ได้ 400 กรัมขึ้นไป โดยมีวิธีการคำนวณปริมาณการกินที่เหมาะสมคือ ในจานอาหารของเราต่อ 1 วัน ให้มีผัก 4-6 ส่วน ซึ่ง 1 ส่วนของผักเท่ากับ 1 ทัพพี ส่วนผลไม้ ให้มี 1-2 ส่วน โดยให้เป็นผลไม้ที่หลากหลาย ไม่ควรเป็นผลไม้รสหวานมาก 1 ส่วนของผลไม้ ถ้าเป็นสตรอเบอรี่ องุ่น ให้มี 8-10 ลูก ถ้าเป็นกลุ่มกล้วย ส้ม แค่ 1 ลูกพอ ส่วนผลไม้ใหญ่ เช่น แตงโม มะละกอ สับปะรด ให้กิน 6-8 ชิ้น
ฝึกลูกน้อยกินผัก
มาสร้างความคุ้นเคยให้เด็กชอบกินผักกัน คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มตั้งแต่เด็กยังเล็ก อายุ 6 เดือน เลือกผักรสกลาง ๆ ปรุงให้เปื่อย และย่อยง่าย อายุ 10 – 12 เดือน เลือกผักมีกากใยที่เคี้ยวได้ อย่างกระหล่ำปลี พออายุ 2 – 3 ขวบ กินได้ทั้งผัดสดและผักดิบ นำมาผสมในเมนูโปรดของลูก สำหรับเด็กโต นำผักมาดัดแปลงทั้งรูปร่างและสีสันให้น่ากินมากยิ่งขึ้น
หนังสือเสียง เจ้าหมีนีโน่
นิทานสอนใจเด็ก ๆ เรื่องการรับประทานอาหารและออกกำลังกาย เรื่องราวของ"นีโน่" หมีน้อยจอมขี้เกียจ ชอบนอนกินน้ำผึ้งแสนหวานที่ใต้ต้นไม้ เมื่อน้ำผึ้งหมด นีโน่ออกเดินทางจะไปหาน้ำผึ้งใหม่กิน พบเพื่อนๆ ทักทายให้ออกกำลังกาย และกินผักผลไม้บ้าง ฟันจะได้ไม่ผุ และไม่เป็นโรคอ้วน แต่นี่โน่ไม่ฟัง สุดท้ายเมื่อเจอกับดักนายพรานนีโน่ไม่สามารถหลุดพ้นได้ เพราะไม่มีแรงดิ้นและกัดเชือกได้ เพราะฟันผุและอ้วนเกินไป จนต้องรอให้เพื่อนๆ มาช่วยเหลือตนในที่สุด
อร้อย อร่อย
“อร้อย อร่อย” นิทานปลูกฝังนิสัยการชอบทานผักให้กับเด็กๆ โดยเล่าเรื่องผ่าน “ตุ๊กติ๊ก และ ตุ๊บปอง” ที่ชอบทานอาหารที่คุณแม่ทำ ซึ่งล้วนแต่เป็นเมนูอาหารที่มีผักเป็นส่วนประกอบ ปรุงรสอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนั้นนิทานยังสอดแทรก ความน่ารักสดใสที่เด็กควรปฏิบัติตาม คือการช่วยงานบ้านคุณแม่ การรักการอ่าน และเรียนรู้สิ่งรอบตัวกับครอบครัวอย่างอบอุ่น
เรื่องเล่าสำหรับเด็กออทิสติก "กินผักได้นะ" เด็กหญิง
กินผักได้นะ ฉบับเด็กหญิง เป็นนิทานเรื่องเล่าทางสังคม สำหรับเด็กออทิสติก ที่เชิญชวนให้เด็กๆ มากินผัก เพื่อสุขภาพที่ดี สดใส ร่างกายที่แข็งแรง ขับถ่ายสะดวก
เรื่องเล่าสำหรับเด็กออทิสติก "กินผักได้นะ" เด็กชาย
กินผักได้นะ ฉบับเด็กชาย เป็นนิทานเรื่องเล่าทางสังคม สำหรับเด็กออทิสติก เชิญชวนให้เด็กๆ มากินผัก เพื่อสุขภาพที่ดี สดใส ร่างกายแข็งแรง ขับถ่ายสะดวก