คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับครอบครัวและเด็ก
ทำงานที่บ้านอย่างเดียวไม่พอ ต้องดูแลลูกน้อยในบ้านด้วย ทำอย่างไรจะดูแลใจกันได้ทั้งครอบครัว? ท่ามกลางสถานการณ์ new normal สิ่งใหม่ที่เราต้องเผชิญอย่างเลี่ยงไม่ได้คือ work from home และการเรียนจากบ้านของลูกน้อยในบ้าน ทำให้เราต้องมีบทบาทพร้อมๆ กันในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น เป็นแม่-หัวหน้างาน เป็นพ่อ-เพื่อนในงาน เป็นลูก-นักเรียนออนไลน์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คงส่งผลกับภูมิคุ้มกันทางใจของเราไม่น้อย จนอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งกันเองในฐานะที่เป็นอยู่หรือกับสมาชิกในบ้าน ความสุขประเทศไทยจึงขอเสนอ “คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับครอบครัวและเด็ก” เพื่อให้มีแนวทางที่จะสร้างการอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว พร้อมกับเติมความเข้าใจและรู้จักคนในครอบครัวให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยคู่มือฉบับนี้จะพาเราไปรู้จัก Family O’clock ว่าเราจะจัดการเวลาของทั้งครอบครัวอย่างไร และนำเสนอกิจกรรมที่ครอบครัวสามารถใช้เวลาร่วมกันและสร้างให้รู้จักกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นอย่าง Family Art Talk เป็นต้น
คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับคู่รักที่ต้องอยู่ด้วยกันในสถานการณ์โควิด-19
โควิดทำให้เราพูดกันไม่รู้เรื่อง โกรธกัน ทะเลาะกันง่ายหรือไม่ ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ต้องพังลง ทำอย่างไรดี? สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ตอนนี้มีทิศทางที่ดีขึ้นแต่สถานการณ์ของเรากับคนรักตอนนี้เป็นอย่างไร หลังที่ต้องอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาส่งผลให้เราทะเลาะกันเพิ่มหรือไม่ หรือห่างเหินกันมากกว่าเดิมหรือเปล่า? ความสุขประเทศไทยจึงขอเสนอ “คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับคู่รัก” เพื่อแนะนำแนวทางในการดูแลใจ เพิ่มความเข้าใจ เชื่อมสัมพันธ์และสร้างภูมิคุ้มใจเพิ่มให้กันและกัน โดยเนื้อหาในคู่มือฉบับนี้ว่าด้วย เราจะดูแลใจอย่างไรเมื่อความโกรธปรากฏขึ้น จะสื่อสารกับคนรักให้เข้าใจกันมากขึ้นได้อย่างไร และเราจะได้ย้อนเวลาหาความรัก เพื่อดูแลใจและความรักของคนรักไปได้พร้อมๆ กัน
คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับครอบครัวที่ต้องห่างกันในสถานการณ์โควิด-19
ต่อสู่กับโควิด-19 อยู่ด้านหน้าแทบขาดใจ อยากกอดครอบครัวแค่ไหนก็ทำไม่ได้ จะบอกรักพวกเขาอย่างไรดี? สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ตอนนี้เหมือนจะโอเค แต่หากมันกลับมาอีกครั้งเราในฐานะผู้ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าการต่อสู้กับไวรัสหรือเรามีคนในครอบครัวที่เป็นคนหน้าด่านต่อสู้กับโรคแล้วละก็ เราจะดูแลความรักกันอย่างไรดี ความสุขประเทศไทยจึงขอเสนอ “คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับครอบครัวที่ต้องห่างกัน” สำหรับผู้คนที่ต้องทำหน้าที่ต่อสู้กับโรคโควิด-19 หรือผู้ที่อยู่ในครอบครัวเดียวกับคนที่ต้องทำหน้าที่ต่อสู้กับโรค ให้สามารถดูแลความรักในชีวิตของเราและส่งกำลังใจดูแลกันและกันได้ไม่ให้ความรักล้มป่วยไปเสียก่อน โดยคู่มือฉบับนี้จะนำเสนอ “ภาษาชูกำลัง (ใจ)” ที่จะทำให้ใจใกล้กันได้แม้กายต้องห่าง อันนำไปสู่วิธีบอกรักแบบพอดีๆ
คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับมหาชน
สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ตอนนี้เหมือนจะโอเค แต่แล้วมันโอเคจริงๆ หรือเปล่าสำหรับฉัน? ท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ ภาพรวมของโลก new normal การ์ดอย่าตก โควิดจะกลับมา การเงินส่วนตัว ความสัมพันธ์ในชีวิต การงานของเรา อาจส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อม ถึงความเครียด สับสน วิตกกังวล ซึ่งหลายครั้งการหมกหมุ่นในอารมณ์และความคิดเหล่านี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังซ้ำเติมเราให้อาการหนักขึ้น ความสุขประเทศไทยจึงได้ผลิต “คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับมหาชน” ที่เล่าถึงวิธีสร้าง “ภูมิคุ้มใจ” แบบง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถทำได้ มีแบบฝึกหัดเล็กๆ ที่จะเพิ่มภูมิคุ้มกันทางใจให้กับตัวเราเอง สามารถรักษาใจให้โอเค ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต่างๆ ที่ยังไม่โอเคเท่าไรนัก คู่มือฉบับนี้จะพาเราถามใจตัวเองว่ายังโอเคไหม พาไปดูสาเหตุบางอย่างที่ทำให้ภูมิคุ้มใจของเราบกพร่อง รวมถึงวิธีดูแลและสร้างภูมิคุ้มใจบางอย่าง เช่น ฮาวทูนับหนึ่งถึงห้า ล้างมือล้างใจ เป็นต้น
นางฟ้าน้อยกับแม่มดจิ๋ว
นางฟ้าน้อยกับแม่มดจิ๋วเพื่อนรักนอกจอ วันหนึ่ง..แม่มดจิ๋วพลาดตกจากไม้กวาดระหว่างที่ขี่ไม้กวาดบินมาหานางฟ้าน้อย แต่พอนางฟ้าน้อยเห็นเพื่อนตกไม้กวาดนอกจากจะไม่ช่วยแล้ว ยังกลับเห็นเป็นเรื่องตลกขบขัน นำรูปแม่มดจิ๋วหัวโนไปแชร์ลงในโลกโซเชียล… นางฟ้าน้อยกับแม่มดจิ๋ว หนังสือนิทานภาพสีสันสดใสและมีเนื้อหาที่สนุกน่าสนใจเหมาะสำหรับเด็กปฐมวัย ตัวนิทานแฝงไว้ด้วยข้อคิดเรื่องการบริหารเวลาการใช้สื่อดิจิทัล การรังแกกันในโลกออนไลน์และการรู้เท่าทันสื่อในโลกปัจจุบัน จึงเหมาะที่จะเป็นสะพานเชื่อมผู้ใหญ่และเด็กในการเรียนรู้เรื่องการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ไปด้วยกัน เรื่องราวของเพื่อนคู่หูนางฟ้าน้อยกับแม่มดจิ๋ว เมื่อนางฟ้าน้อยได้เข้าร่วมกลุ่มโซเชียลมีเดียและเริ่มแชร์ภาพของแม่มดจิ๋ว ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไป นางฟ้าน้อยจะแก้ปัญหานี้อย่างไร และแม่มดจิ๋วจะให้อภัยนางฟ้าน้อยหรือไม่ ติดตามได้จากวีดีโอนิทานเรื่องเลย..
ของใหม่กับเพื่อนเก่า
เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีอาการเห่อ “ของใหม่” จนบางครั้งทำให้หลงลืมและมองข้ามคุณค่าที่มีอยู่ใน ”ของเก่า” ไป ในยุคดิจิทัล ยุคที่เราดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมก้มหน้า หลายต่อหลายครั้งการที่เราก้มหน้าสัมผัสกับหน้าจอมือถือ เราได้หลงลืมคนรอบข้างและมองไม่เห็นโลกแห่งความจริงภายนอกหน้าจอมือถือของเรา นิทานภาพ “ของใหม่กับเพื่อนเก่า” มีเนื้อหาสะท้อนชวนให้คิดกับวิถีชีวิตในยุคดิจิทัล ซึ่งเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่จะพากันไปท่องโลกดิจิทัลและเรียนรู้การสร้างสมดุลในการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ด้วยกัน
อลิซในวันมหัศจรรย์
“ความมหัศจรรย์มีอยู่ทุกที่ภายนอกจอมือถือและกำลังรอให้เราออกไปค้นพบ” หนูอลิซ เด็กน้อยที่ชอบเก็บตัวอยู่ในโลกออนไลน์ โลกที่เธอเชื่อว่าเป็นแดนมหัศจรรย์ของเธอ แต่แล้ววันหนึ่งหนูน้อยอลิซได้พลาดตกลงไปในโพรงลึกใต้ดินและได้พบกับโลกมหัศจรรย์อีกใบ โลกที่ไร้ซึ่งมือถือและทำให้หนูน้อยอลิซค้นพบว่ายังมีโลกอีกใบหนึ่ง ที่มีความมหัศจรรย์มากกว่าโลกออนไลน์ของเธอ อลิซในวันมหัศจรรย์ นิทานที่มีเนื้อหาสะท้อนสังคมยุคดิจิทัล ที่สามารถ “ประยุกต์” ใช้ได้กับทุกวัย เพื่อสร้างสมดุลและให้เกิดความ “เข้าใจ” และ “เท่าทัน” ในการใช้สื่อในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์
เม่นน้อยหลงทาง
สมัยนี้ใครๆ ก็มีมือถือ แล้วส่วนใหญ่ก็เล่นมือถือกันทั้งวัน เม่นน้อยก็เช่นกันเล่นจนลืมเวลา ลืมทุกอย่างรอบตัว ไม่ยอมออกกำลังกาย ไม่ยอมออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ พอเม่นน้อยมารู้สึกตัวอีกทีก็หลุดหลงเข้าไปอยู่ในโลกที่ทุกคนเฉยเมยต่อกันเพราะถูกมนต์สะกดจากมือถือเสียแล้ว เม่นน้อยหลงทาง นิทานภาพที่มีเนื้อหาสะท้อนโลกยุคดิจิทัลและให้ข้อคิดในการบริหารเวลาการใช้สื่อในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่ปฐมวัยขึ้นไปที่ผู้ใหญ่สามารถนำมาใช้เป็นสะพานเชื่อมความรู้และทักษะความฉลาดทางดิจิทัลให้กับเด็กๆ ได้ เรื่องราวของเจ้าเม่นน้อยตัวกลม ที่หลงเข้าไปในโลกของโทรศัพท์มือถือ จนลืมเวลา ... แล้วเขาจะออกมาจากโลกในโทรศัพท์มือถือได้อย่างไรกัน? ติดตามได้จากวีดีโอนิทานนี้เลย
นกกะปูดตาแดง
ทำไมเพื่อนๆ ของนกกะปูด ถึงได้ตาแดงตาคล้ำกันไปหมด? นกกะปูดสงสัย อ๋อ! เป็นเพราะเล่นมือถือกันทั้งวันอย่างไรล่ะ! นกกะปูดตาแดง นิทานภาพสะท้อนสถานการณ์การใช้สื่อในยุคปัจจุบันที่ให้ทั้งข้อคิดในเรื่องการรู้เท่าทันสื่อและการบริหารเวลาการใช้สื่อในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ ตัวสื่อนิทานมีสีสันที่สวยงามและมีเนื้อเรื่องที่เข้าถึงง่ายเหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่ปฐมวัยขึ้นไป ที่พ่อแม่ คุณครู และผู้ดูแลเด็กเองสามารถหยิบสื่อนิทานเรื่องนี้มาสร้างกิจกรรมร่วมกันกับเด็กๆ ได้ นอกจากจะเป็นการปูพื้นฐานและเสริมทักษะความฉลาดทางดิจิทัลให้แก่เด็กๆ แล้ว ยังเป็นการได้ใช้เวลาดีๆ ที่มีคุณภาพร่วมกัน นิทานคำกลอนบอกเล่าเรื่องราวความขี้สงสัยของเจ้านกกะปูดตาแดง เมื่อเพื่อน ๆ ชาวนกต่างก็ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์กันจนตากลายเป็นสีแดง แล้วเจ้านกกะปูดจะช่วยเหล่าเพื่อนพ้องได้ไหมละนี่... มาหาคำตอบในวีดีโอนิทานนี้เลย