สำหรับผู้บกพร่องการมองเห็น
สำหรับบุคคลทั่วไป สมัครเพื่อดาวน์โหลดไฟล์สื่อต่างๆ ภายในเว็บไซต์
ค้นหา
หนังสือรวบรวมกรอบความคิดเรื่องของการจัดการความรู้เท่าทันสื่อสำหรับปฐมวัย ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ เพื่อเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กปฐมวัย ได้มองเห็นแนวทางในการดูแลเด็กระดับปฐมวัยในประเด็นการรู้เท่าทันสื่อ โดยเนื้อหารวบรวมค้นคว้ามาจากทั้งงานวิจัย เกร็ดความรู้ และความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้มองประเด็นนี้ได้อย่างรอบด้าน และนำไปประยุกต์สร้างการเรียนรู้ที่เหมาะสมให้กับเด็กปฐมวัยต่อไป
รู้จักกับวิธีการสร้างสมดุลชีวิตทางดิจิทัลในกับเด็ก ๆ พร้อมชวนคิดต่อถึงบทบาทของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ในการดูแลให้เขาสามารถใช้สื่อดิจิทัลได้อย่างไม่เป็นพิษกับวัยของเขา
n/a
ในยุคที่สื่อมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตและมีความง่ายต่อการเข้าถึง ผู้ผลิตรายการสารคดีที่ดีจึงควรมีความรอบคอบและตระหนักถึงข้อเท็จจริงในการนำเสนอว่าผู้ชมได้รับประโยชน์หรือเรียนรู้อะไรบ้าง รวมถึงมีเทคนิคและความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตสื่อให้น่าสนใจ สมุดบันทึกเรื่องราวในโครงการเติมไฟประกายฝัน “คู่มือการผลิตรายการสารคดีโทรทัศน์ของคนรุ่นใหม่” มิใช่เพียงแค่ตัวอักษร กระดาษ ภาพวาด แต่คือ ชีวิตและวิญญาณแห่งความฝันของใครหลายๆ คนที่ร่วมก้าวเดินไปในเส้นทางการผลิตรายการสารคดีโทรทัศน์สำหรับเยาวชนและครอบครัว โดยมีรุ่นพี่มืออาชีพเป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อเปิดหัวใจรับรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสานต่อให้โลกนี้มีสื่อสีขาวเพื่อเยาวชนของเรา
หนังสือ 'ขอตามเม้นท์ ทุกชาติ ทุกชาติไป' เป็นการระดมพลังนักเขียนการ์ตูนเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว เกี่ยวกับการบริโภคสื่อของเด็ก เยาวชน และครอบครัว ที่ล้วนแต่มีอิทธิพลต่อความคิด พฤติกรรมของสมาชิกในครอบครัว โดยไม่รู้ตัว เช่น การ์ตูนเรื่อง “ไร้พรมแดน” ที่สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อสมาชิกทุกคนติดหน้าจอ สนใจแต่สื่อสารทางออนไลน์จึงไม่สนใจคนที่อยู่เคียงข้างในขณะนั้น หรือ การ์ตูนเรื่อง “อยากเป็นหมอ” เด็กใฝ่ฝันที่อยากเป็นหมอ แต่วันๆ เอาแต่กินยาบำรุงสมอง และเล่นเกม แล้วจะสอบติดหมอได้อย่างไร?
ตะลุยเมือง 3 ดี @George Town 2014 เป็นหนังสือเล่มเล็กที่เล่าสรุปถึงเมืองจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เมื่อครั้งที่สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน พากลุ่มภาคีเครือข่ายเมือง 3 ดีไปร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การใช้ศิลปะมาเป็นตัวเชื่อมโยงเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้เยาวชนในเมืองจอร์จทาวน์ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายรูป หุ่นเงา วาดภาพ หรือการทำอาหารประจำชุมชน ทำให้เยาวชนเกิดความรัก หวงแหนในเมืองจอร์จทาวน์ ไม่ใช่ในฐานะเมืองมรดกโลก แต่เป็นชุมชนของตัวเอง หนังสือเล่มเล็กเล่มนี้จะพาไปรู้จักกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ในจอร์จทาวน์ทุกมุม ผนวกด้วยเส้นทางการเดินทาง โรงแรม ประหนึ่งคล้ายหนังสือท่องเที่ยวเล่มเล็ก ๆ ที่ให้ผู้อ่านได้เพลิดเพลินสนุกกับการเรียนรู้และพร้อมจะออกเดินทางไปสู่เมืองแห่งศิลปะนี้ด้วยกัน
หนังสือเล่มแรก Bookstart Thailand เป็นหนังสือที่สรุปองค์ความรู้จากโครงการ Bookstart Thailand ที่ได้ต้นแบบมาจาก Bookstart ของประเทศอังกฤษและประเทศญี่ปุ่น ตลอดการดำเนินการ 6 ปีของโครงการ เพื่อเป็นแนวทางให้พ่อแม่ ผู้ปกครองที่เลี้ยงดูเด้ก ได้มองเห็นความสำคัญ นำกระบวนการเคล็ดลับที่ได้เหล่านี้ไปใช้บ่มเพาะเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขและสติปัญญาที่เป็นผลจากการอ่านสร้างสุขภาวะต่อไป
เพราะการเล่นเป็น 1 ในกิจกรรมสำคัญที่จะช่วยพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ให้กับเด็กอย่างสมวัย หนังสือเล่น...เพื่อสร้างโลกที่เป็นสุข จึงเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นคู่มือที่ใช้สำหรับบอกแนวทางปฏิบัติในการจัดสภาพแวดล้อม เพื่อสร้างพื้นที่เล่นสำหรับเด็กให้กับผู้ที่ทำงานด้านเด็ก โดยเรียบเรียงเนื้อหามาจากประสบการณ์จริงในการทำงานร่วมกับงานวิจัยของต่างประเทศ ผ่านการนำมาปรับปรุงและทดลองใช้โดยมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) เนื้อหาประกอบไปด้วยภาพรวมการจัดสภาพแวดล้อมสำหรับเด็ก สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเล่น การพัฒนาพื้นที่เล่น การมีส่วนร่วมในการเล่น ตลอดจนถึงเทคนิคการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการเล่นอย่างเป็นรูปธรรม
ปลูกต้นรัก(การอ่าน) เป็นหนังสือคู่มือแนวทางและเทคนิคการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านสำหรับคุณครูและผู้ที่ทำงานด้านเด็ก เนื้อหาของหนังสือมาจากกิจกรรมส่งเสริมการรักการอ่านระดับตำบลโครงการปลูกต้นรัก(การอ่าน) ที่เชียงดาว โดยกิจกรรมได้ออกแบบและพัฒนาทำงานร่วมกับนักเรียนระดับประถมศึกษาจำนวน 7 โรงเรียน ได้หลักสูตรการสร้างสื่อสร้างสรรค์ การออกแบบกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่านในโรงเรียน ทำให้การอ่านกลายเป็นเรื่องน่าสนใจ และมีความสุขสำหรับเด็ก ๆ
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ รายการที่หยิบเอาเรื่องเล่าท้องถิ่นสนุก ๆ มาสร้างสรรค์เป็นสื่อและกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้สนุกกับการเรียนรู้ สำหรับEp.1 สนุกกับนิทานทุ่งซ่า 2 เรื่อง เรื่องแรก ตอน สามมื้อต่อวัน เป็นเรื่องเล่าพื้นบ้านท้องถิ่นจากคุณยาย จ.มหาสารคราม ที่เล่าถึงตำนานทำไม ควายจึงทำงานหนัก เพราะในตำนานเทพควายได้รับมอบหมายจากพญาแถนให้มาบอกข่าวบนโลกมนุษย์ว่าจะไม่อดอยาก หาก 3 วันกินข้าว 1 มื้อ แต่เทพควายขึ้ลืม ขาดสติ จึงส่งสารผิดเป็น 1 วันให้กิน 3 มื้อ จึงถูกพญาแถนทำโทษให้ลงมาเป็นควายไถนาให้มนุษย์มีข้าวกิน และนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่ 2 ตอน แจ้งไม่ตาย เป็นเรื่องเล่าจากคุณตา จ.พัทลุง เล่าถึงนายแจ้ง ที่นอนหลับไปหลายวัน จนชาวบ้านตกใจว่าตายแล้ว แต่ดันตื่นขึ้นมาเมื่อนอนอิ่ม ชาวบ้านตั้งฉายาว่าแจ้งไม่ตาย ต่อมามีงูเหลือมที่มีพิษร้ายแรง ใครแค่เดินผ่านรอยเลื้อยของงูเหลือมก็จะตายหมด แต่พอนายแจ้งมาเหยียบงูเหลือมแล้วตายจริงๆ เมื่อชาวบ้านเล่าต่อกันโดยใช้ชื่อว่านายแจ้งไม่ตาย...ตายแล้ว ทว่างูเหลือมฟังไม่จบ ก็ตีตนไปก่อน เลยเสียความมั่นใจแล้วคายพิษออกมาหมด หลังจากนั้นงูเหลือมจึงไม่มีพิษอีกต่อไป
ทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.2 หยิบเรื่องเล่าพื้นบ้านจาก จ.เชียงราย มาเป็นสื่อสร้างสรรค์ ตอน สามเกลอหัวใส เป็นเรื่องเล่าของเหล่าสามเกลอเพื่อนสนิท คือ กิ้งก่า เต่า และแมลงแสนติ๋น ที่นัดกันจะไปกินข้าวเย็นที่บ้านของกิ่งก่า แต่ข้าวสารเหลือน้อย จะต้องมีคนไปซื้อมาเพิ่ม กิ้งก่าบอกถ้าเขาไปซื้อจะทำข้าวหกหมด เพราะกระโดดไปมา ส่วนเต่าว่าเขาเดินช้ากว่าจะได้กินคงหิวกัน แสนติ๋นจึงได้รับหน้าที่นี้ไป แต่เวลาผ่านไป 7 วัน ทุกคนก็ยังไม่ได้ข้าวสารจากแสนติ๋น เพราะแสนติ๋นกลับบ้านไปใส่รองเท้าเพื่อเดินไปซื้อข้าวยังไม่เสร็จเลย ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่ 2 ตอน ของขวัญจากอาจารย์ เป็นเรื่องเล่าจากคุณยาย จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าถึงความมุมานะของนายสน ที่หลังร่ำเรียนวิชาจากพระอาจารย์ที่วัด แล้วกลับบ้านเกิด พระอาจารย์ให้ของขวัญเป็นหนูตายและข้าวเปลือก นายสนหลับมาต่อยอดขายหนูปิ้ง เพื่อเป็นทุนสร้างร้านขายผัก และนำข้าวเปลือกมาปลูกเป็นนาข้าวอุดมสมบูรณ์ สร้างอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวอย่างมีความสุข
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep. 3 เรื่องเล่านิทานทุ่งซ่า ตอน เต่าจอมโว จากคุณตา จ.เชียงราย เมื่อวันหนี่งหงส์ 2 พี่น้องบินกลับไปเยี่ยมเต่าเพื่อนสนิท และชักชวนกันเดินทางไปเที่ยวกันต่อที่บ้านหงส์ แต่เต่าเดินช้า หงส์จึงให้เต่าคาบกิ่งไม้ ที่หงส์สองพี่น้องจับอยู่แล้วบินกลับบ้าน แต่เต่าจอมโว เผลอเปิดปากโวยวายเด็กๆ ที่อยู่บนพื้น จนตนเองตกลงมาบาดเจ็บสาหัส ต่อด้วย นิทานทุ่งซ่า เรื่องที่ 2 ตอน ข้าวของพ่อตา เรื่องเล่าจากคุณตา จ.พระนครศรีอยุธยา เรื่องเกิดจากพ่อตาที่ชักชวนลูกเขยมาช่วยกันหว่านข้าว เกี่ยวข้าว นำข้าวไปขายที่โรงสี จนกระทั่งหุงข้าวที่พ่อตาปลูกเอง แต่ที่ผ่านมาพ่อตาจะถามลูกเขยอย่างภาคภูมิใจในฝีมือตนเองในการปลูกข้าว แต่ลูกเขยมักจะพูดยั่วโมโหว่า “มันก็ไม่แน่หรอกพ่อ” จนกระทั่งพ่อตาโกธรจัด สุดท้ายเลยไม่ยอมให้ลูกเขยกินข้าวที่พ่อตาปลูก
กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร