ผลงานวิจัยการใช้หนังสือนิทานภาพ จ๊ะเอ๋ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้
“จ๊ะเอ๋” คลิปวิดีโอผลงานวิจัยการใช้หนังสือนิทานภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่หยิบนิทานภาพมาเป็นเครื่องมือในการเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวและสร้างวัฒนธรรมการกอดให้เกิดขึ้นในครอบครัวระหว่างพ่อแม่และลูกให้มีความใกล้ชิดและช่วงเวลาแห่งความรักร่วมกันทุกวัน หนังสือนิทานภาพถือเป็นบันไดขั้นแรกที่ปลูกฝังทั้งการรักการอ่านและสร้างพัฒนาการทางด้านสติปัญญาให้แก่เด็ก อีกทั้งผลการวิจัยพบว่าหลังจากที่ผู้ปกครองและเด็กได้เล่น “จ๊ะเอ๋” กันทุกวัน เด็กๆ มีความกล้าที่จะกอดพ่อแม่มากขึ้น เกิดเป็นวัฒนธรรมแห่งความรักที่สร้างความอบอุ่นให้เกิดขึ้นในครอบครัว
หนังสืออยากมีเพื่อน (ภาษามลายู)
นิทานหนังสืออยากมีเพื่อน นิทานเปรียบเทียบบอกเล่าเรื่องราวหนังสือเล่มน้อยที่ถูกลืม และทิ้งไว้ที่ชายหาด จนกลายเป็นหนังสือที่ชำรุดและฉีกขาด จนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กน้อยมาเก็บไปซ่อมแซม และเริ่มเป็นเพื่อนกันและกัน ถักทอดมิตรภาพผ่านตัวหนังสือตัวแล้วตัวเล่าจนเป็นนักอ่านตัวยง
ปิดไฟหน่อยนะ (ภาษามลายู)
ปิดไฟหน่อยนะ เป็นหนังสือนิทานเพื่อเด็กปฐมวัย แนะนำเรื่องการปิดไฟเพื่อเตรียมตัวเข้านอน สอดแทรกความรักและห่วงใยที่พ่อแม่จะอยู่ดูแลลูกน้อยแม้ยามค่ำคืนที่มืดมิด เพื่อสร้างเสริมความั่งคงทางอารมณ์ให้กับเด็ก ๆ
ของหาย (ภาษามลายู)
นิทานของหาย เป็นหนังสือภาพที่ไม่ตัวหนังสือ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ทำความเข้าใจกับเรื่องราวที่เห็นจากภาพ เพื่อเกิดการลำดับการเล่าเรื่องราว โดยการแลกเปลี่ยนพูดคุยกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง และคุณครู ก่อนการอ่าน ระหว่างการอ่าน และหลังการอ่าน เพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์ให้เด็ก ๆ จากการเล่าเรื่องราวจากภาพในนิทานจนสามารถอ่านหนังสือได้ด้วยตนเอง
ผจญภัยในป่าฮาลาบาลา
นิทานผจญภัยในป่าฮาลาบาลา เรื่องราวของสองพี่น้องต๋องและแตง ที่ร่วมกันผจญภัยในป่าเพื่อตามหาพ่อแม่และทางออกในการกลับบ้าน เป็นชุดนิทานเพื่อใช้เสริมสร้างทักษะพื้นฐานการแยกแยะเสียง และทักษะการบอกสีด้วยความเร็ว นับเป็นหนังสือนิทานที่เหมาะกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูอาจารย์เพื่อปลูกฝังทักษะรักการอ่านให้เด็ก ๆ
หนูจี๊ดติดจอ
“หนูจี๊ด ติดจอ” นิทานภาพ โดย ตุ๊บป่อง ที่ชักชวนให้เยาวชนหันมาดูแลดวงตาและสร้างวินัยในการจัดเวลาการใช้งานสื่อให้เหมาะสม เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการเรียนรู้และในการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กๆ ถ้าหากใช้ดวงตาเพ่งมองจอโทรทัศน์ จอโทรศัพท์มือถือ หรือ หน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป จะก่อให้เกิดผลเสียต่อดวงตาก่อนวัยอันควรได้
หนูจ๋าสิไปไส
“หนูจ๋าสิไปไส” โดย ระพีพรรณ พัฒนาเวช นิทานภาพที่ชักชวนให้เยาวชนทำกิจกรรมสร้างความสุขโดยการสัมผัสธรรมชาติรอบตัว เพื่อเป็นการเสริมสร้างทักษะและพลังในการเรียนรู้ โดยได้บอกเล่าเรื่องราวความผูกพันระหว่างเด็กกับผู้คนแวดล้อมและวิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ
สามเหลี่ยมสนุก
นิทานภาพสีสันสดใสที่จะช่วยสร้างสรรค์ความคิดและขยายพื้นที่จินตนาการของเด็กๆ ที่อยู่ในช่วงปฐมวัยให้กว้างไกล ด้วยตัวอักษรและรูปทรงสามเหลี่ยมมหาสนุก นอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินจากภาพนิทานที่มีสีสันสดสวยแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังทักษะการรักการอ่านและการคิดอย่างลึกซึ้งให้แก่เด็กๆ ในส่วนท้ายเล่มของนิทานก็ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ส่งท้าย เพื่อต่อยอดจินตนาการให้แก่เด็กๆ ได้ลองฝึกทักษะการคิดและจินตนาการอย่างสร้างสรรค์
อ่านสร้างสุข เล่ม 26 - 1009 เล่ม วรรณกรรมเกื้อกูลโลก เกื้อกูลมนุษย์ เล่ม 1
การอ่านเป็นจุดเริ่มต้นการเรียนรู้ที่น่ามหัศจรรย์ โดยเฉพาะการอ่านวรรณกรรม ทั้งนวนิยายไทย นวนิยายต่างประเทศ จะช่วยสร้างทักษะการคิด และการเท่าทันอารมร์และการเรียนรู้ครอบคลุมในทุกมิติ เยาวชนอายุ 12-18 ปี จึงควรหาวรรณกรรมเล่มโปรดไว้เป็นหนังสือคู่กาย อ่านสร้างสุขเล่มนี้คือคำตอบ !!!
อ่านสร้างสุข 27 มหัศจรรย์ห้องสมุดเด็กปฐมวัย
อ่านสร้างสุข ฉบับที่ 27 เล่มนี้ ได้รวบรวมกระบวนการเรียนรู้ และคัดเลือกหนังสือ และกิจกรรมที่น่าสนใจที่เด็กเล็กและพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถทำกิจกรรมร่วมกันในพื้นที่สร้างสรรค์ที่เรียกว่า “ห้องสมุด” สำหรับเด็กปฐมวัยแล้ว ห้องสมุดต้องเป็นพื้นที่เล่น และเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน เพราะนั่นคือ พื้นที่มหัศจรรย์ของพวกเขา
อ่านสร้างสุข เล่ม 26 - 1009 เล่ม วรรณกรรมเกื้อกูลโลก เกื้อกูลมนุษย์ เล่ม 2
อ่านสร้างสุขเล่มนี้ เป็นการรวบรวมวรรณกรรมไทยและวรรณกรรมโลก จำนวน 1,009 เล่ม ที่แนะนำให้เด็กและเยาวชนอายุ 12-18 ปี ได้อ่าน เพราะพบว่าพลังของวรรณกรรม ทำให้สมองของเยาวชนมีความสุข นำไปสู่พลังชีวิตที่มีความฉลาดทางอารมณ์ โดยคุณชมัยภร บางคมบาง ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้นำการคัดสรรวรรณกรรมทุกเล่ม ด้วยความปรารถนาให้เด็กและเยาวชนได้บ่มเพาะความเกื้อกูลมนุษย์และโลกอย่างเติบโตและงดงาม
อ่านสร้างสุข 22 การ์ตูนศิลปะทรงพลัง สร้างยอดนักอ่าน
อ่านสร้างสุข ฉบับนี้ เราจะมาเรียนรู้การอ่านของเด็กวัยการ์ตูน ซึ่งมีอายุก่อน 12 ปี มีคำกล่าวว่า “ธรรมชาติของสมองจะรับ จดจำ มีความสุขจากภาพ” นั่นคือ เสน่ห์ของหนังสือการ์ตูน ที่สามารถดึงดูความสนใจของเด็กได้ด้วยภาพ สีสัน ทำให้เด็กเพลิดเพลินในการอ่าน และมีความสนุกกับการอ่าน การ์ตูนจึงเป็นหนังสือทรงพลังที่กระตุ้นและปลูกฝังให้เด็กรักการอ่าน