เราจะเป็นมิตรกับตนเอง ได้อย่างไร โดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
ธรรมบรรยายหัวข้อเรื่อง “การเป็นหนึ่งกับตัวเองอย่างมีคุณค่า” โดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ถ่ายทอดสดจากงาน Wake up ONE : Writers & Stars Awakening Workshop กิจกรรม Wake up ONE เป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการขับเคลื่อนสังคมแห่งการตื่นรู้สู่หนึ่งเดียวกัน - We Oneness“ ดำเนินงานโดยมูลนิธิสหธรรมิกชนภายใต้การสนับสนุนของ สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth
วิชาชีวิต Live 7 เตรียมนับวัน โดยอาจารย์พรวรินทร์ นุตราวงศ์ vs หนุ่มเมืองจันท์
คนเราคอยนับวันที่จะโต นับวันที่จะเรียนจบ นับวันที่จะแต่งงาน นับวันและเวลารอเหตุการณ์สำคัญของชีวิต แต่สำหรับเหตุการณ์สำคัญที่สุด คือช่วงเวลาสุดท้ายที่จะลาจากโลกใบนี้ เราได้เตรียมตัวรับสิ่งที่กำลังจะเกิดอย่างไรบ้าง ทั้งร่างกาย และทั้งจิตใจ ให้เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่มีคุณภาพ และมีความหมาย "ถ้าเราเจอความทุกข์ เจอความตายกับคนที่เรารัก สิ่งแรกที่ควรทำคือ 'กอด' ให้กำลังใจกับคนๆนั้น ผมเชื่อว่าถ้าอาการกายรักษาไม่ได้ แต่ถ้าใจมาเมื่อไหร่ มันมีสิทธิจะช่วยเรื่องกายได้" หนุ่มเมืองจันท์
วิชาชีวิต บทที่ 11 การรักษาใจผู้ป่วยและผู้ดูแล - พระอาจารย์ครรชิต อกิญจโน และ อรทัย ชะฟู
เมื่อเจ็บป่วย นอกจากสภาพร่างกายจะต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงแล้วสภาพจิตใจย่อมส่งผลกระทบตามไปด้วย การดูแลจิตใจของผู้ป่วยจึงสำคัญไม่น้อยไปกว่าร่างกาย หน้าที่ดูแลทั้งกายและใจนี้นอกจากบุคคลากรทางการแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและรักษาแล้ว บทบาทที่สำคัญในการดูแลผู้ป่วยคือผู้ดูแลที่เป็นผู้บริบาล คอยสังเกตและดูแลทั้งกายและใจของผู้ป่วย แม้จะดูแลด้วยความรัก ด้วยจิตใจที่เป็นมิตรต่อกัน แต่การดูแลต่อเนื่องยาวนานอย่างใกล้ชิดย่อมมีทั้งสุขและทุกข์ ความเหนื่อยล้าและขัดแย้งอาจจะเกิดขึ้นได้ การทำความเข้าใจในสภาวะโรค สภาพจิตใจ ของผู้ป่วย และการดูแลตนเอง ดูแลใจ ของผู้ดูแลจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
วิชาชีวิต บทที่ 10 Pain Management - รศ.พญ.ศรีเวียง ไพโรจน์กุล และพระอาจารย์ครรชิต อกิญจโน
การจัดการความเจ็บปวดของผู้ป่วยระยะสุดท้าย มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือการรักษาความเจ็บปวดทางกาย ซึ่งทางการแพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ โดยมีตั้งแต่เจ็บปวดปานกลางจะใช้ยาพาราเซตามอลจนถึงปวดรุนแรงจะใช้มอร์ฟีน และการรักษาความเจ็บปวดทางใจ ที่ต้องใช้การสื่อสาร สร้างความเข้าใจถึงความเจ็บปวดและการรักษาที่ถูกต้อง แต่ส่วนใหญ่ที่คนไข้เจ็บปวดตลอดเวลา ด้วยเพราะมีความวิตกกังวล กลัวการจากลา การสูญเสียคนเป็นที่รัก จึงเหมือนธนูยิงเข้าทั้งกายและใจให้เจ็บปวดตลอดเวลา ดังนั้นการรักษาความปวดในผู้ป่วยระยะสุดท้าย ต้องรักษาควบคู่ทั้งการปวดทางใจและทางกาย เพื่อให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.14 (ตอน ชาวนากับงูเหลือม และ ตอน คำสอนของอาจารย์)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.14 พบกับนิทานทุ่งซ่า ตอน ชาวนากับงูเหลือม เป็นนิทานจากภาคเหนือ จ.เชียงราย เล่าถึงชาวนาผู้หนึ่ง เป็นคนดี ใจบุญสุนทาน ขยันขันแข็งทำมาหากินเลี้ยงชีพ วันหนึ่งเกิดพลัดหลงกับควายของตนเอง จึงเดินตามหาในป่าลึก พบกับงูเหลือมที่จะมาทำร้ายตนเอง แต่ด้วยคุณงามความดีที่ทำไว้ สัตว์ร้ายต่าง ๆ จึงไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ชาวนาได้ ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน คำสอนของอาจารย์ เป็นนิทานของ จ.พัทลุง เล่าถึงอาจารย์ที่มอบคำสอนให้กับลูกศิษย์ซึ่งร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้จนจบและจะเดินทางกลับบ้านว่า “อยู่สูงให้นอนคว่ำ อยู่ต่ำให้นอนหงาย” ซี่งเมื่อลูกศิษย์เชื่อฟังคำสอนของอาจารย์เช่นนี้ จึงทำให้พวกเขารอดพ้นจากอันตรายต่าง ๆ ระหว่างการเดินทาง ปิดท้ายด้วยการประดิษฐ์หุ่นเงา ให้การเล่นหุ่นเงามีสีสันที่หลากหลาย
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.2 (ตอน สามเกลอหัวใส และ ของขวัญจากอาจารย์)
ทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.2 หยิบเรื่องเล่าพื้นบ้านจาก จ.เชียงราย มาเป็นสื่อสร้างสรรค์ ตอน สามเกลอหัวใส เป็นเรื่องเล่าของเหล่าสามเกลอเพื่อนสนิท คือ กิ้งก่า เต่า และแมลงแสนติ๋น ที่นัดกันจะไปกินข้าวเย็นที่บ้านของกิ่งก่า แต่ข้าวสารเหลือน้อย จะต้องมีคนไปซื้อมาเพิ่ม กิ้งก่าบอกถ้าเขาไปซื้อจะทำข้าวหกหมด เพราะกระโดดไปมา ส่วนเต่าว่าเขาเดินช้ากว่าจะได้กินคงหิวกัน แสนติ๋นจึงได้รับหน้าที่นี้ไป แต่เวลาผ่านไป 7 วัน ทุกคนก็ยังไม่ได้ข้าวสารจากแสนติ๋น เพราะแสนติ๋นกลับบ้านไปใส่รองเท้าเพื่อเดินไปซื้อข้าวยังไม่เสร็จเลย ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่ 2 ตอน ของขวัญจากอาจารย์ เป็นเรื่องเล่าจากคุณยาย จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าถึงความมุมานะของนายสน ที่หลังร่ำเรียนวิชาจากพระอาจารย์ที่วัด แล้วกลับบ้านเกิด พระอาจารย์ให้ของขวัญเป็นหนูตายและข้าวเปลือก นายสนหลับมาต่อยอดขายหนูปิ้ง เพื่อเป็นทุนสร้างร้านขายผัก และนำข้าวเปลือกมาปลูกเป็นนาข้าวอุดมสมบูรณ์ สร้างอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวอย่างมีความสุข