The Reading อ่านสร้างสุข โดย ครูปรีดา ปัญญาจันทร์ EP.1
The Reading อ่านสร้างสุข กับ ครูปรีดา ปัญญาจันทร์ ครูสอนศิลปะ นักแต่งนิทาน นักวาดภาพประกอบนิทานและนักวิชาการอิสระ คุณครูปรีดาได้ใช้ศิลปะในการรังสรรค์นิทานให้กลายเป็นเครื่องมือเพื่อการสื่อสารและสร้างจินตนาการร่วมกันระหว่างเด็กๆ และผู้ใหญ่ โดยใช้คำง่ายๆ ที่สามารถเล่าเรื่องราวจากสิ่งที่เป็นนามธรรมให้เด็กๆ เข้าใจได้และเมื่อเด็กๆ อ่านง่าย พวกเขาก็จะค่อยๆ รักการอ่านไปในตัว คุณครูปรีดายังได้ให้คำแนะนำกับคุณพ่อคุณพ่อที่สงสัยว่าจะเล่านิทานให้ลูกฟังยังไงให้สนุก กุญแจสำคัญก็คือ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่เริ่มเล่านิทานให้ลูกฟัง เสียงของคุณพ่อคุแม่ก็คือ เสียงจากสวรรค์แล้ว การเล่านิทานให้ลูกฟังทุกคืนถือเป็นการช่วยเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญาของลูกและฝึกพัฒนาการเล่านิทานของผู้ปกครองไปในตัว รวมไปถึงความผูกพัน ความใกล้ชิดที่จะเกิดขึ้นระหว่างทางแห่งการสร้างความสุขร่วมกัน
The Reading อ่านสร้างสุข โดย ครูปรีดา ปัญญาจันทร์ EP.2
คลิปวิดีโอ The Reading อ่านสร้างสุข กับนิทานเรื่องพระจันทร์อยากมีเพื่อน โดย ครูปรีดา ปัญญาจันทร์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการตัดกระดาษไปพร้อมๆ กับการเล่านิทาน จนเกิดเป็นไอเดียในการแต่งนิทานเรื่องพระจันทร์อยากมีเพื่อนขึ้น นิทานเรื่องพระจันทร์อยากมีเพื่อน เป็นนิทานที่มีการใช้เทคนิคการพับและตัดกระดาษเข้ามาช่วยเสริมอรรถรสในการเล่าเรื่องที่จะทำให้เด็กๆ เกิดการจินตนาการตาม มีความรู้สึกสนุกและนำตัวเองความไปมีส่วนร่วมในนิทานมากขึ้น รวมถึงจะได้ฝึกทักษะการคิดวางแผนในกิจกรรมการตัดกระดาษให้เป็นรูปดาวล้อมเดือน ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ มีพัฒนาการการใช้กล้ามเนื้อมือและสายตาที่ประสานกัน
The Reading อ่านสร้างสุข โดย ครูปรีดา ปัญญาจันทร์ EP.3
นิทานภาพเรื่องเม่นหลบฝน โดย ครูปรีดา ปัญญาจันทร์ ที่ได้รับรางวัลและได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษา เม่นหลบฝนเป็นนิทานภาพที่ไร้ตัวหนังสือแต่สามารถพูดคุยและเล่าเรื่องให้เด็กๆ เข้าใจได้ ด้วยการใช้ภาพและสัญลักษณ์ในหนังสือสื่อสารกับเด็กและด้วยภาพในนิทานจะเป็นตัวกระตุ้นให้เด็กฝึกเปล่งคำพูดออกมาและยังเปิดกว้างให้เด็กๆ ได้หัดจินตนาการตามภาพ หนังสือนิทานภาพประเภทไร้ตัวหนังสือนี้จะเป็นตัวช่วยอย่างดีในการฝึกให้เด็กมีพัฒนาด้านทักษะทางภาษาและการพูด รวมถึงฝึกการใช้ความคิดและเปิดกว้างทางจินตนาการของเด็กได้อย่างสร้างสรรค์
The Reading อ่านสร้างสุข โดย รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ EP.1
“เด็กทุกคนชอบหนังสือ ป้ากุล ยืนยัน” The reading อ่านสร้างสุข โดย รศ. กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ หรือ “ป้ากุล” ข้าราชการบำนาญสาขาวรรณกรรมสำหรับเด็กมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อดีตบรรณารักษ์และครูสอนภาษาไทย ป้ากุลมีความเชื่อว่าถ้าหากเด็กทุกคนได้เสพศิลปะในนิทานสำหรับเด็กแล้ว พวกเขาจะเติบโตขึ้นมามีจิตใจที่อ่อนโยน ในผลงานนิทานแต่ละเรื่องที่ป้ากุลแต่งล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากหลานๆ ซึ่งมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและใช้จินตนาการในการแต่งนิทานร่วมกัน อีกทั้งยังทำให้ป้ากุลกล้าที่จะวาดภาพ โดยนิทานของป้ากุลส่วนใหญ่แล้วจะใช้เทคนิคการพับกระดาษและใช้ภาพศิลปะในนิทานเป็นตัวเล่าเรื่อง เพื่อปลูกฝังคุณธรรมและการรักการอ่านให้แก่เด็กๆ
The Reading อ่านสร้างสุข โดย รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ EP.2
การเล่านิทานและการผลิตสื่อที่เข้าใจง่าย เช่น การวาดรูปและการพับกระดาษประกอบการเล่านิทานให้เด็กฟังจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเด็กๆ เพราะเด็กๆ จะได้ทั้งประโยชน์จากการใช้กล้ามเนื้อมือ การพัฒนาทักษะการคิด การวางแผนและยังมีความผูกพันกับตัวละครในเรื่อง The Reading อ่านสร้างสุข โดย รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ Ep.2 ในคลิปวิดีโอที่สองนี้ ป้ากุล จะมาเล่านิทานพร้อมทั้งแนะนำการออกเสียงภาษาไทยที่ถูกต้องด้วยเรื่อง ทำไม ช.ช้าง จมูกยาว กับเทคนิคการเล่านิทานที่มีทั้งการพับกระดาษและการร้องเพลงมาช่วยหนุนพลังรักการอ่าน ซึ่งเด็กๆ จะได้ทั้งความรู้เรื่องการออกเสียงภาษาไทยที่ถูกต้องและยังได้ฝึกการใช้ความคิดสร้างสรรค์ผ่านทางภาพศิลปะในนิทานและการพับกระดาษ
The Reading อ่านสร้างสุข โดย รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ EP.3
หนังสือดีสำหรับเด็กส่วนมากมักจะมีราคาแพง แต่เราสามารถสร้างหนังสือดีสำหรับเด็กที่มีเพียงแค่เล่มเดียวในโลกได้ง่ายๆ ด้วยฝีมือของเราเอง The Reading อ่านสร้างสุข โดย รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ Ep.3 ในคลิปวิดีโอที่สาม นี้ ป้ากุลจะมาสาธิตวิธีทำหนังสือนิทานขั้นบันไดสำหรับเด็กด้วยวัสดุเหลือใช้ใกล้ตัว ที่มีวิธีการทำที่ทั้งง่ายและสร้างสรรค์ แถมป้ากุลยังได้เล่าถึงที่มาและแรงบันดาลใจของป้ากุลในผลงานนิทานเรื่อง เพื่อนหายไปไหน ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากหนังสือนิทานทำมือจนกระทั่งได้กลายเป็นนิทานฉบับตีพิมพ์
ผลงานวิจัยการใช้หนังสือนิทานภาพ จ๊ะเอ๋ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้
“จ๊ะเอ๋” คลิปวิดีโอผลงานวิจัยการใช้หนังสือนิทานภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่หยิบนิทานภาพมาเป็นเครื่องมือในการเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวและสร้างวัฒนธรรมการกอดให้เกิดขึ้นในครอบครัวระหว่างพ่อแม่และลูกให้มีความใกล้ชิดและช่วงเวลาแห่งความรักร่วมกันทุกวัน หนังสือนิทานภาพถือเป็นบันไดขั้นแรกที่ปลูกฝังทั้งการรักการอ่านและสร้างพัฒนาการทางด้านสติปัญญาให้แก่เด็ก อีกทั้งผลการวิจัยพบว่าหลังจากที่ผู้ปกครองและเด็กได้เล่น “จ๊ะเอ๋” กันทุกวัน เด็กๆ มีความกล้าที่จะกอดพ่อแม่มากขึ้น เกิดเป็นวัฒนธรรมแห่งความรักที่สร้างความอบอุ่นให้เกิดขึ้นในครอบครัว
Slow is beautiful วิถีทางเลือกนั้นเป็นไปได้จริง
หลายคนคงจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัว “สลอธ” ที่เคลื่อนไหวร่างกายได้สุดแสนจะเชื่องช้านั้น ที่จริงแล้ว พวกเขารู้จักการใช้ชีวิตและรู้สำนึกถึงคุณค่าของธรรมชาติมากกว่ามนุษย์อย่างเราๆ เสียอีก ในโลกของมนุษย์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยระบบเสรีนิยมและการแข่งขัน เราใช้ชีวิตกันอย่างรีบเร่งเน้นสร้างปริมาณและให้คุณค่ากับวัตถุมากกว่าจิตใจ เพราะมีกรอบความเชื่อแบบเดิมๆ ตามฝั่งตะวันตกว่า ยิ่งมีมากยิ่งสุขมาก แต่ยิ่งเรามีมากก็เท่ากับเราต้องเบียดเบียนธรรมชาติและเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากขึ้น ถ้าหากเราลองเปลี่ยนกรอบความคิดเดิมให้กลับมาใช้วิถีชีวิตแบบตะวันออก ที่ใช้ชีวิตให้ช้าลง ใจเย็นลง เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติมากขึ้น เราจะค้นพบว่า เราได้สร้างการเบียดเบียนชีวิตอื่นน้อยลง เรามีความสุขง่ายขึ้นและมองเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ ได้ง่ายมากขึ้น
ลุงทองดี ยอดนักปราชญ์การจักรสาน : ม่อนปิ่น : สื่อศิลป์ SE
ลุงทองดี ยอดนักปราชญ์การจักรสาน เป็นหนึ่งในผลงานของชาวม่อนปิ่น โดยสภาเด็กและเยาวชนตำบลม่อนปิ่น ที่จะแนะนำนักปราชญ์ชาวบ้านคนเก่งในตำบลม่อนปิ่น เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาชาวบ้านในกับเยาวชนรุ่นใหม่ และผู้ที่สนใจ