รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.16 (ตอน เกือบจะทิ้งพ่อ และ ตอน เศรษฐี ลูกชายและม้า)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.16 พบกับนิทานทุ่งซ่า ตอน เกือบจะทิ้งพ่อ เป็นนิทานจากภาคกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าถึงลูกชายคนหนึ่ง ที่มีฐานะยากจน มีภรรยาและลูก 3 คนที่ต้องเลี้ยงดู และยังต้องดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับพ่อของตนเองที่ชราและตาบอด จึงวางแผนจะนำพ่อของตนเองไปทิ้งเพราะไม่อยากรับภาระ แต่แล้วก็คิดได้และสำนึกผิดว่าเมื่อถึงตนเองชราบ้าง ลูกๆ ที่พบตัวอย่างไม่ดีของพ่อที่ทำกับปู่ ก็จะต้องทิ้งพ่อคือตนเองด้วยเช่นกัน ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน เศรษฐี ลูกชายและม้า เป็นนิทานจากภาคใต้ จ.พัทลุง เล่าถึงครอบครัวเศรษฐี ที่มีชีวิตสุขสบายตามประสาพ่อแม่ลูก มาวันหนึ่งภรรยาล้มป่วย จึงเสียเงินเสียทองรักษาไปจำนวนมาก ทรัพย์สมบัติเริ่มร่อยหรอจนเหลือม้าเพียงตัวเดียว จึงตัดสินใจนำม้าไปขายในเมือง ระหว่างที่เดินทางไปนั้น ชาวบ้านต่างซุบซิบนินทาการจูงม้า ของเศรษฐีและลูกมาตลอดทาง ปิดท้ายด้วยกิจกรรมฝึกความคิดสร้างสรรค์ให้เด็ก ๆ ด้วยการทำเรือจากกาบมะพร้าวและวัสดุธรรมชาติ
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.15 (ตอน ยาวิเศษ และ ตอน ทำคุณไม่ขึ้น)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.15 พบกับนิทานทุ่งซ่า ตอน ยาวิเศษ จาก จ.อุบลราชธานี เล่าถึงอาการประหลาดของเจ้าเมืองนครแห่งหนึ่งที่เป็นโรคเบื่ออาหาร ใครทำอะไรมาให้ก็ไม่ยอมกิน จนวันหนึ่ง ”บักเซี่ยงเมี่ยง” รู้ข่าว จึงบอกว่าจะพาเจ้าเมืองไปหายาวิเศษ เพื่อรักษาอาการประหลาดนี้ แต่ต้องเข้าไปหาในป่าลึกด้วยตนเอง และห้ามกินอะไรเลยจนกว่าจะได้ยา เจ้าเมืองรับปากทำตาม แต่ยังไม่ทันเจอยาวิเศษใด ๆ เลย เจ้าเมืองก็หายจากอาการประหลาดนี้แล้ว เพราะว่าได้ออกแรงจึงทำให้กินอาหารอร่อย ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน ทำคุณไม่ขึ้น จากภาคเหนือ จ.เชียงราย เล่าถึง “ลุงหนาน” ผู้ทำคุณไม่ขึ้น ไปช่วยชีวิตกวางจากการถูกงูเหลือมกิน ก็ถูกกวางก็ต่อว่าว่าจับตนเพราะหวังเอาเขากวางไปขาย พอไปช่วยผู้หญิงที่ถูกปูหนีบ ก็ถูกตบหน้าและว่าว่าหลอกลวง สุดท้ายลุงหนานท้อไม่อยากทำความดีต่อไป เทวดาเห็นจึงยืนมือมาช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ลุงหนาน ปิดท้ายด้วยการชวนเด็ก ๆ ไปสนุกกับการละเล่นพื้นบ้าน 'อีตัก' ได้เรียนรู้เมล็ดพืชทั้งถั่วแดง ตะบูน น้อยหน่า ฯลฯ
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.14 (ตอน ชาวนากับงูเหลือม และ ตอน คำสอนของอาจารย์)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.14 พบกับนิทานทุ่งซ่า ตอน ชาวนากับงูเหลือม เป็นนิทานจากภาคเหนือ จ.เชียงราย เล่าถึงชาวนาผู้หนึ่ง เป็นคนดี ใจบุญสุนทาน ขยันขันแข็งทำมาหากินเลี้ยงชีพ วันหนึ่งเกิดพลัดหลงกับควายของตนเอง จึงเดินตามหาในป่าลึก พบกับงูเหลือมที่จะมาทำร้ายตนเอง แต่ด้วยคุณงามความดีที่ทำไว้ สัตว์ร้ายต่าง ๆ จึงไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ชาวนาได้ ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน คำสอนของอาจารย์ เป็นนิทานของ จ.พัทลุง เล่าถึงอาจารย์ที่มอบคำสอนให้กับลูกศิษย์ซึ่งร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้จนจบและจะเดินทางกลับบ้านว่า “อยู่สูงให้นอนคว่ำ อยู่ต่ำให้นอนหงาย” ซี่งเมื่อลูกศิษย์เชื่อฟังคำสอนของอาจารย์เช่นนี้ จึงทำให้พวกเขารอดพ้นจากอันตรายต่าง ๆ ระหว่างการเดินทาง ปิดท้ายด้วยการประดิษฐ์หุ่นเงา ให้การเล่นหุ่นเงามีสีสันที่หลากหลาย
รายการทุ่งซาวาไรตี้ Ep.13 (ตอน พรของเสือ และ ตอน กินข้าวเหลือ)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.13 มีนิทานทุ่งซ่ามาให้สนุกกัน 2 ตอน ตอนแรกเรื่อง พรของเสือ เป็นนิทานเรื่องเล่าจากภาคใต้ จ. พัทลุง เล่าถึงตำนานการมีลูกของเสือว่าสาเหตุที่เสือมีลูกน้อย เพราะไปขอพรจากพระอินทร์ให้มีลูกได้ครั้งละหลายตัว พระอินทร์ให้แต่มีข้อแม้ว่าระหว่างเดินทางกลับจะต้องท่องพรที่ขอไว้ตลอดว่า “ปีละหนึ่งครอกๆ ละ 7 ตัว” ข่าวรู้ถึงชาวบ้านก็เกิดความหวาดกลัว จึงไปขอร้องให้พระอินทร์ช่วยสร้างอุปสรรคให้เสือท่องผิดเป็น “ 7 ปีหนึ่งครอกๆ ละ 1 ตัว” ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน กินข้าวเหลือ เป็นนิทานจากภาคกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเรื่องของ 2 ครอบครัวที่ฐานะต่างกัน ครอบครัวหนึ่งร่ำรวย แต่กินทิ้งกินขว้าง กับอีกครอบครัวที่ฐานะยากจนแต่ขยันขันแข็งและประหยัดอดออม เมื่อเกิดศึกสงครามข้าวยากหมากแพง ครอบครัวที่ประหยัดอาหารการกินไว้ก็อยู่ได้ไม่ลำบาก ส่วนครอบครัวร่ำรวยแม้มีเงินก็ไม่สามารถซื้อข้าวกินได้ ปิดท้ายรายการด้วยกิจกรรมสนุกกับเงา ให้เด็กๆ ไม่กลัวความมืดและสนุกอย่างสร้างสรรค์กับจินตนาการ
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.12 (ตอน เจ้าวัวเห็นแก่ตัว และ ตอน มือใหญ่ หูกาง ก้นแหลม ขี้มูกเยอะ)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.12 นำเสนอนิทานทุ่งซ่าตอนแรกเรื่อง เจ้าวัวเห็นแก่ตัว นิทานจาก จ.เชียงใหม่ เล่าถึงวัวและควายซึ่งเป็นเพื่อนเดินทางของพ่อค้าเร่ที่หาบสิ่งของมากมายเพื่อเดินทางเข้าเมือง แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวของวัวที่ต้องการสบาย จึงออกอุบายแกล้งทำขาเจ็บ จนพ่อค้าต้องแบ่งของทั้งหมดมาให้ควายแบกแทน แต่สุดท้ายควายแบกไม่ไหวจึงสิ้นใจตาย สุดท้ายวัวจึงต้องรับภาระทั้งหมดของควายไว้เพียงผู้เดียว ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน มือใหญ่ หูกาง ก้นแหลม ขี้มูกเยอะ เป็นนิทานจากภาคใต้ เล่าถึงสี่เกลอผู้มีลักษณะเด่น คนหนึ่งมือใหญ่ คนหนึ่งหูกาง และอีกสองคนก็มีก้นแหลมและขี้มูกเยอะ ความไม่เหมือนคนอื่นทำให้รู้สึกอับอายไม่มั่นใจ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ผจญภัยกับพายุ แต่ทั้งสี่ก็รอดชีวิตกันมาได้ กลายเป็นเพื่อนที่ดีร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันเสมอมา ท้ายรายการ ชวนเด็ก ๆ มาทำเบ็ดตกปลาแม่เหล็ก เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กและประสาทสัมผัสด้วยการเล่นอย่างสร้างสรรค์
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.11 (ตอน ตาบอดอยากกินแกงไก่ และ ตอน นกกระยางเจ้าเล่ห์)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.11 นำเสนอนิทานทุ่งซ่า ตอน ตาบอดอยากกินแกงไก่ เป็นเรื่องเล่าจาก จ.พัทลุง เล่าเรื่องสองเกลอจอมขโมยที่คนหนึ่งตาบอด คนหนึ่งตาดีแต่ชอบผายลมเสียงดัง ทั้งสองวางแผนจะไปขโมยไก่ของชาวบ้านมาแกงกิน ด้วยความโลภทั้งสองจึงขโมยไก่มากมายหลายตัว จนสุดท้ายไก่หลุดมือ และมีเสียงผายลมดังขึ้น ผลของกรรมที่ก่อไว้จึงตามมาสนอง ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน นกกระยางเจ้าเล่ห์ นิทานจาก จ.กาญจนบุรี เล่าถึงนกกระยางที่ออกอุบายบอกว่าจะพาเหล่าปลาน้อยใหญ่ที่บ่อน้ำแห่งหนึ่ง ไปอาศัยอยู่บ่อน้ำแห่งใหม่ที่ใสสะอาดน่าอยู่ โดยเสนอว่าจะคาบปลาไปส่งที่บ่อน้ำแห่งใหม่ทีละตัว จนในที่สุดปลาเหล่านั้นก็ตกเป็นอาหารอันโอชะของนกกระยางเจ้าเล่ห์ จนกระทั่งมีเพื่อนปูสองตัวที่เกิดความเฉลียวใจ จึงปราบความเจ้าเล่ห์ของนกกระยางได้สำเร็จ ท้ายรายการ ชวนเด็ก ๆ มาทำลูกข่างจากวัสดุธรรมชาติ เช่น มะเขือเปาะ แครอท ฯลฯ
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.10 (ตอน ชายขี้เกียจ และ ตอน ลูกแมวเอาแต่ใจ)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.10 เรียนรู้เรื่องราวสนุก ๆ จากนิทานทุ่งซ่า ตอน ชายขี้เกียจ เป็นเรื่องเล่าจากภาคเหนือ เนื้อเรื่องกล่าวถึงชายคนหนึ่งที่ตอนเป็นเด็กไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ ลาออกมาตั้งแต่ ป.4 ยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มาทำอาชีพหาของป่า อยู่มาวันหนึ่งเกิดหลงป่า และอ่านป้ายเตือนหน้าถ้ำไม่ออก จนทำให้ประสบกับความยากลำบาก ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน ลูกแมวเอาแต่ใจ เป็นนิทานจากภาคอีสาน เล่าถึงแมวแม่ลูกที่อาศัยอยู่กับเศรษฐีอย่างสุขสบาย อยู่มาวันหนึ่งไฟไหม้บ้านเศรษฐี แมวแม่ลูกจึงต้องมาเลี้ยงดูตัวเอง ในแต่ละวันแม่แมวต้องไปหาอาหารมาให้ลูกแมวกินเสมอ เพราะลูกติดความสบายเมื่อสมัยอยู่บ้านเศรษฐี พอแม่แมวไม่สบาย หาอาหารมาให้ลูกกินไม่ได้ ลูกแมวก็ออกฤทธิ์เอาแต่ใจ เที่ยวตามหาแม่ใหม่มาให้ตนเอง จนสุดท้ายได้เรียนรู้ว่า ไม่มีแม่ที่ไหนดีเท่าแม่ของเราเอง ท้ายรายการชวนเด็ก ๆ มาทำนาฬิกาสำหรับนักเล่านิทาน งานศิลปะที่ช่วยให้การเล่านิทานสนุกยิ่งขึ้น
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.9 (ตอน ช้างโทนเกเร และ เกิดปีอะไร)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.9 สนุกไปกับ 2 นิทานทุ่งซ่า เรื่องแรกตอน ช้างโทนผู้เกเร เป็นเรื่องเล่าจากคุณตา จ.กาญจนบุรี เล่าถึงวีรกรรมแสนเกเรของช้างโทน ที่ชอบรังแกสัตว์น้อยใหญ่ในป่า อยู่มาวันหนึ่งนกกระจิบ และเพื่อนพ้องตัวเล็กๆ ได้ร่วมพลังสามัคคีกันล้มช้างโทน เพื่อให้บทเรียนและเตือนสติช้างโทนให้กลับตัวกลับใจไม่เกเรต่อไป ส่วนเรื่องที่สอง สนุกกับนิทานทุ่งซ่า ตอน เกิดปีอะไร เล่าเรื่องโดย คุณตา จ.เชียงราย เป็นตำนานของหมาและแมว ย้อนไปในอดีตหมาและแมวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะต่างมีชาวบ้านเก็บมาเลี้ยงดูในบ้านเดียวกัน แต่อยู่มาวันหนึ่งเกิดหมาเกิดอยากรู้ว่าแมวเกิดปีอะไร เพราะคนเป็นพี่จะมีสิทธิ์สั่งให้คนน้องหรือคนเกิดหลังทำอะไรก็ได้ แต่แมวไม่ยอมบอก จึงทะเลาะกัน สองตัวร้องขู่กันเสียงดัง กลายเป็นที่มาของหมากับแมวที่ไม่ถูกกันและเสียงร้องของทั้งคู่ในปัจจุบัน ท้ายรายการชวนกันไปเรียนรู้เรื่องการแยกขยะ และนำกล่องวัสดุเหลือใช้มาทำเป็นตุ๊กตาน่ารัก
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.8 (ตอน แม่วัวซื่อสัตย์กับเสือ และ ตอน คนบุญหนักหาบ คนบาปมักเบา)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.8 พบกับ นิทานทุ่งซ่า ตอน แม่วัวซื่อสัตย์กับเสือ เป็นนิทานเรื่องเล่าจากภาคใต้ โดยคุณตา จ.พัทลุง เรื่องมีอยู่ว่า ณ ป่าแห่งหนึ่ง แม่วัวลูกอ่อนออกไปหาอาหารกินริมทุ่งแล้วพบเสือ เสือจะจับแม่วัวกินเป็นอาหาร แม่วัวจึงอ้อนวอนให้ตนเองกลับไปบอกลาลูกน้อยก่อนแล้วจะยอมมาเป็นอาหารให้เสือ แต่พอเมื่อลูกวัวน้อยรู้เรื่องนี้ก็คิดเสียสละจะให้เสือกินตนเองแทนแม่ เสือเห็นความรักที่ยิ่งใหญ่ของแม่วัวและลูกวัว จึงยอมไว้ชีวิตวัวแม่ลูกคู่นี้ ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน คนบุญหนักหาบ คนบาปมักเบา เป็นเรื่องเล่าจากคุณตา จ.เชียงราย เล่าถึงเด็กๆ ที่เดินทางเข้าป่าตามนายพรานหวังจะไปเที่ยวเล่น หาของป่า แต่กลับหลงป่า เมื่อมีเทวดามาอธิบายให้เก็บก้อนหินระหว่างทางเดินทางกลับบ้าน ก็มีแต่เด็กขี้เกียจไม่ยอมทำ แต่มีเด็กคนหนึ่งทำตามคำของเทวดา เมื่ออกจากป่าได้ ก้อนหินเล่านั้นก็กลายเป็นแก้วแหวนเงินทองมากมาย ตอนท้ายรายการ มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้เด็ก ๆ เล่นอย่างสร้างสรรค์ด้วยการนำวัสดุธรรมชาติมาสร้างสรรค์เป็น 'ภาพพิมพ์ธรรมชาติ'
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.7 (ตอน เสือขี้ขลาด และ ตอน นักรบกับเหยี่ยว)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.7 สนุกไปกับ นิทานทุ่งซ่า ตอน เสือขี้ขลาด เป็นเรื่องเล่าจากคุณยาย จ.กาญจนบุรี ที่เนื้อหาเล่าถึงความฉลาดของพ่อหมาอาศัยอยู่ในป่า เมื่อพบว่าเสือมาแอบมองหน้าถ้ำที่ตนและลูกอาศัยอยู่ และมุ่งหมายจะกินลูกๆ ของตน พ่อหมาจึงออกอุบายว่า เมื่อวานตนเองไปหาเนื้อเสือ ซึ่งเป็นอาหารอร่อยให้ลูกๆ กินกัน เสือขี้ขลาดได้ฟังดังนั้นก็ตกใจกลัววิ่งหนีไปทันที ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่ 2 ตอน นักรบกับเหยี่ยว เล่าโดยคุณยาย จาก จ. เชียงใหม่ เป็นความรักฉันท์เพื่อนระหว่างนักรบและเหยี่ยว ซึ่งอยู่มาวันหนึ่งนักรบและเหล่าพลทหารเดินทางไปถิ่นทุรกันดารและหิวน้ำมาก แต่พอนักรบจะตักน้ำในลำธารกินเหยี่ยวก็โฉบมาปัดน้ำหกทุกครั้ง จนนักรบโมโหเอาดาบฆ่าเหยี่ยวเสียชีวิต แล้วจึงมารู้ภายหลังว่าเหยี่ยวช่วยชีวิตตน เพราะลำธารนั้นมีงูมาคายพิษอยู่ที่ต้นลำธาร
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.6 (ตอน นิทานเรื่องสั้น เรื่องยาวกับสัตว์สามตัวและฝูงนกกระจาบ และ ตอน ความรักของแม่)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.6 นี้ มีนิทานทุ่งซ่า ตอน นิทานเรื่องสั้น เรื่องยาว กับสัตว์สามตัวและฝูงนกกระจาบ เป็นนิทานเรื่องเล่าจากหลวงตา จ. พัทลุง ที่กล่าวถึงคุณตานักเล่านิทานท่านหนึ่งที่เด็ก ๆ มักจะมานั่งล้อมวงให้คุณตาเล่านิทานให้ฟังเสมอ ทั้งนิทานที่เป็นเรี่องสั้นที่มีเพียงชื่อตัวละคร และเรื่องยาวแสนยาวที่เล่าทั้งวันก็ไม่หมดเกี่ยวกับสมาชิกนกกระจาบที่แข็งขันเอาตัวรอดจากกับดักชาวบ้าน ส่วนนิทานเรื่องที่สอง ชื่อตอน ความรักของแม่ เป็นนิทานจากคุณตา จ.อุบลราชธานี ที่เล่าถึงความรักของแม่นกกระจอก ที่แม้ยามที่ภัยมาเยือนก็ไม่ละทิ้งลูกน้อย ดูแลปกป้องลูกๆ จนวาระสุดท้ายของชีวิต
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.4 (ตอน กระต่ายเกเร และ ตอน ขายน้ำไม่บาป)
รายการทุ่งซ่าวาไตี้ Ep.4 มีเรื่องเล่านิทานทุ่งซ่า ตอน กระต่ายเกเร จาก คุณตา จ.เชียงราย ที่เล่าถึงกระต่ายจอมเกเร ที่ออกอุบายไปขี่หลังเสือที่แบกกองฟางเดินผ่านมา จากนั้นกระต่ายก็จุดไฟเผาฟาง เสือโกรธจัดจึงไล่จับกระต่ายกิน สุดท้ายเลยตกลงไปที่กับดักนายพรานทั้ง 2 ตัว ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอนที่ 2 ขายน้ำไม่บาป เป็นเรื่องเล่าจาก คุณยาย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เล่าถึงพรานน้อย ที่ยึดอาชีพล่าสัตว์ พอใส่บาตรก็นำเนื้อสัตว์ที่ตนเองล่ามาถวายพระ หลวงพ่อจึงบอกว่ามันบาป แล้วให้เลิกล่าสัตว์ หันมาขายน้ำสมุนไพรต่าง ๆ แทนจะได้ไม่บาป