ภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้
ภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้ เป็นผลผลิตจากแนวคิดของ 6 ภาคีเครือข่ายสุขภาวะทางปัญญา สนับสนุนโดย สสส. มีจุดประสงค์เพื่อช่วยสนับสนุนให้คนไทยสามารถปรับตัวรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ปรับตัวอยู่กับวิถีชีวิตใหม่ได้อย่างมีความสุขทั้งกายและใจ ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสในการทำกิจกรรมช่วยเพิ่มความสุขใน 4 มิติ โดยนำเสนอกิจกรรมที่สามารถเติมความสุขและสติให้กับใจได้ต่อเนื่อง 14 วัน
คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับครอบครัวและเด็ก
ทำงานที่บ้านอย่างเดียวไม่พอ ต้องดูแลลูกน้อยในบ้านด้วย ทำอย่างไรจะดูแลใจกันได้ทั้งครอบครัว? ท่ามกลางสถานการณ์ new normal สิ่งใหม่ที่เราต้องเผชิญอย่างเลี่ยงไม่ได้คือ work from home และการเรียนจากบ้านของลูกน้อยในบ้าน ทำให้เราต้องมีบทบาทพร้อมๆ กันในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น เป็นแม่-หัวหน้างาน เป็นพ่อ-เพื่อนในงาน เป็นลูก-นักเรียนออนไลน์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คงส่งผลกับภูมิคุ้มกันทางใจของเราไม่น้อย จนอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งกันเองในฐานะที่เป็นอยู่หรือกับสมาชิกในบ้าน ความสุขประเทศไทยจึงขอเสนอ “คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับครอบครัวและเด็ก” เพื่อให้มีแนวทางที่จะสร้างการอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว พร้อมกับเติมความเข้าใจและรู้จักคนในครอบครัวให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยคู่มือฉบับนี้จะพาเราไปรู้จัก Family O’clock ว่าเราจะจัดการเวลาของทั้งครอบครัวอย่างไร และนำเสนอกิจกรรมที่ครอบครัวสามารถใช้เวลาร่วมกันและสร้างให้รู้จักกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นอย่าง Family Art Talk เป็นต้น
คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับคู่รักที่ต้องอยู่ด้วยกันในสถานการณ์โควิด-19
โควิดทำให้เราพูดกันไม่รู้เรื่อง โกรธกัน ทะเลาะกันง่ายหรือไม่ ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ต้องพังลง ทำอย่างไรดี? สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ตอนนี้มีทิศทางที่ดีขึ้นแต่สถานการณ์ของเรากับคนรักตอนนี้เป็นอย่างไร หลังที่ต้องอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาส่งผลให้เราทะเลาะกันเพิ่มหรือไม่ หรือห่างเหินกันมากกว่าเดิมหรือเปล่า? ความสุขประเทศไทยจึงขอเสนอ “คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับคู่รัก” เพื่อแนะนำแนวทางในการดูแลใจ เพิ่มความเข้าใจ เชื่อมสัมพันธ์และสร้างภูมิคุ้มใจเพิ่มให้กันและกัน โดยเนื้อหาในคู่มือฉบับนี้ว่าด้วย เราจะดูแลใจอย่างไรเมื่อความโกรธปรากฏขึ้น จะสื่อสารกับคนรักให้เข้าใจกันมากขึ้นได้อย่างไร และเราจะได้ย้อนเวลาหาความรัก เพื่อดูแลใจและความรักของคนรักไปได้พร้อมๆ กัน
คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับครอบครัวที่ต้องห่างกันในสถานการณ์โควิด-19
ต่อสู่กับโควิด-19 อยู่ด้านหน้าแทบขาดใจ อยากกอดครอบครัวแค่ไหนก็ทำไม่ได้ จะบอกรักพวกเขาอย่างไรดี? สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ตอนนี้เหมือนจะโอเค แต่หากมันกลับมาอีกครั้งเราในฐานะผู้ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าการต่อสู้กับไวรัสหรือเรามีคนในครอบครัวที่เป็นคนหน้าด่านต่อสู้กับโรคแล้วละก็ เราจะดูแลความรักกันอย่างไรดี ความสุขประเทศไทยจึงขอเสนอ “คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับครอบครัวที่ต้องห่างกัน” สำหรับผู้คนที่ต้องทำหน้าที่ต่อสู้กับโรคโควิด-19 หรือผู้ที่อยู่ในครอบครัวเดียวกับคนที่ต้องทำหน้าที่ต่อสู้กับโรค ให้สามารถดูแลความรักในชีวิตของเราและส่งกำลังใจดูแลกันและกันได้ไม่ให้ความรักล้มป่วยไปเสียก่อน โดยคู่มือฉบับนี้จะนำเสนอ “ภาษาชูกำลัง (ใจ)” ที่จะทำให้ใจใกล้กันได้แม้กายต้องห่าง อันนำไปสู่วิธีบอกรักแบบพอดีๆ
คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับมหาชน
สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ตอนนี้เหมือนจะโอเค แต่แล้วมันโอเคจริงๆ หรือเปล่าสำหรับฉัน? ท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ ภาพรวมของโลก new normal การ์ดอย่าตก โควิดจะกลับมา การเงินส่วนตัว ความสัมพันธ์ในชีวิต การงานของเรา อาจส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อม ถึงความเครียด สับสน วิตกกังวล ซึ่งหลายครั้งการหมกหมุ่นในอารมณ์และความคิดเหล่านี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังซ้ำเติมเราให้อาการหนักขึ้น ความสุขประเทศไทยจึงได้ผลิต “คู่มือสร้างภูมิคุ้มใจ ฉบับมหาชน” ที่เล่าถึงวิธีสร้าง “ภูมิคุ้มใจ” แบบง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถทำได้ มีแบบฝึกหัดเล็กๆ ที่จะเพิ่มภูมิคุ้มกันทางใจให้กับตัวเราเอง สามารถรักษาใจให้โอเค ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต่างๆ ที่ยังไม่โอเคเท่าไรนัก คู่มือฉบับนี้จะพาเราถามใจตัวเองว่ายังโอเคไหม พาไปดูสาเหตุบางอย่างที่ทำให้ภูมิคุ้มใจของเราบกพร่อง รวมถึงวิธีดูแลและสร้างภูมิคุ้มใจบางอย่าง เช่น ฮาวทูนับหนึ่งถึงห้า ล้างมือล้างใจ เป็นต้น
5 ขั้นระบายใจ กับการเขียนบันทึกแบบน้ำไหล
เบาสบาย…ปล่อยให้มันไหลออกมา บางสิ่งที่ไม่อาจบอกใครได้ ลองบอกตัวเองอย่างซื่อสัตย์ ผ่านการเขียนบันทึกที่ไม่มีการเซ็นเซอร์ความคิดความรู้สึกใดๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านในและเข้าใจตนเอง
8 ขั้น ล้างมือ-ล้างใจ ให้มือสะอาดและใจสงบ
ต้องล้างมือกันวันละหลายรอบ แล้วใจของเราล่ะ เราได้ล้างสิ่งไม่ดี อารมณ์ลบๆ ที่หมักหมมออกบ้างไหม? ‘ถ้ามือเราสะอาด ใจเราก็จะสะอาดไปด้วย’ มันจะเยี่ยมไปเลย!
ใช้เวลาอยู่บ้านทำ 6 Sensing รับรู้โลกไร้ขีดจำกัด
ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยจากไวรัสและทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน วันหยุดนี้ขอชวนเดินทางไปสัมผัสสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา
สนทนาประสาครอบครัว เริ่มคุยอย่างไรให้ได้ดูแลกัน
โควิด-19 ทำให้เราเห็นชัดว่าบ้านและครอบครัวเป็นที่พักพิงใจที่มั่นคงที่สุด ในวันหยุดที่เราอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน จะดีแค่ไหนที่เราได้ใช้ช่วงเวลานี้
เรายังรักกันทุกวันจ้ะ
สื่อหนังสือภาพ 'เรายังรักกันทุกวันจ้ะ' โดยโครงการภูมิคุ้มใจและแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. จัดทำขึ้นเพื่อช่วยเป็นสื่อกลางให้ครอบครัวและเด็กๆ ได้เข้าใจถึงการสื่อสารภาษารักในรูปแบบต่างๆ ผ่านตัวละครครอบครัวหมีน้อยในนิทานเล่มนี้ โดยมีภาษารักแทนการกอดหรือหอมแก้มซึ่งไม่สามารถทำได้ในช่วงของการรักษาระยะห่างหรือ Social Distance ตัวอย่างเช่น การบอกรักด้วยคำพูด การบอกรักด้วยการดูแล เตรียมน้ำ เตรียมขนม หรือการบอกรักด้วยของขวัญแทนใจ ดังนั้น แม้ตัวจะห่างแต่หัวใจเรายังใกล้กันได้ผ่านภาษารักเหล่านี้
เปิดเมือง เปิดใจ มาสร้างภูมิคุ้มใจ ต้อนรับชีวิตวิถีใหม่
เปิดเมือง เปิดใจ ต้อนรับ ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่จะไม่เหมือนเดิม นอกจากสุขภาพกายที่ยังคงต้องระมัดระวังกันต่อไป สุขภาพใจก็ละเลยไม่ได้เช่นกัน ชวนสร้าง "ภูมิคุ้มใจ" ไว้ต้อนรับวิถีชีวิตใหม่ให้มีความสุข โดยมี 4 หมวดกิจกรรม ให้เลือกลองทำ #ปรับชีวิตเปลี่ยนโหมดใจ ให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ ต้องมีสติเสมอ ใช้โอกาสนี้ฝึกเรียนรู้ พัฒนาจิตใจให้ดีและแข็งแรงขึ้นได้ #ใคร่ครวญโลกภายใน แม้วันนี้จะออกนอกบ้านได้ แต่การเดินทางภายในยังคงสำคัญ ยุคหลังกักตัวอยู่บ้าน วิกฤตโควิดได้สอนอะไรเรา อะไรสำคัญกับชีวิต ความคิดและความรู้สึกของเราส่งจะผลต่อชีวิตใหม่นี้อย่างไร #สานใจในความสัมพันธ์ - ชีวิตวิถีใหม่จะแตกต่างไปจากเดิม เช่น เราไม่อาจใกล้ชิดกันได้เท่าเดิม ไม่อาจใช้เวลาร่วมกันได้นานเหมือนเช่นเคย แต่มีหลายวิธีที่อยากแนะนำที่จะช่วยสานความสัมพันธ์ได้ แม้กายจะห่างไกลกัน #สรรค์สร้างใจสู่ความสงบ - ชีวิตวิถีใหม่ อาจทำให้รู้สึกแปลกแยก กังวล เครียด แต่ยังมีข้อแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้เราอยู่กับตัวเองอย่างมีความสุขและนำความสงบมาสู่ชีวิตวิถีใหม่ได้ไม่ยาก
ดูแลหัวใจเจ้าตัวน้อยช่วงโควิด-19
อินโฟกราฟิกแนะนำเทคนิคให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ในการดูแลเด็กๆ ลูกหลานที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านช่วงโควิด-19 เด็กๆ เองก็เครียดไม่แพ้กันและบางครั้งก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ จำเป็นที่ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจและช่วยประคับประคองให้เด็กๆ ผ่านช่วงนี้ไปด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งไม่แพ้ผู้ใหญ่เช่นเดียวกัน