นกพิราบ ผู้เสียสละ
นิทานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวประวัติ ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เรื่องเริ่มต้นบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ มีนกอินทรีเป็นเจ้าเวหา ต่อมาได้มีฝูงนกเหยี่ยวผู้ก้าวร้าว หวังยึดอำนาจนกอินทรี จึงไปทำร้ายนกอินทรีแล้วขึ้นเป็นเจ้าเวหาแทน ไม่มีนกตัวใดกล้าต่อกรด้วย ยกเว้น “นกพิราบผู้เสียสละ” ที่ชักจูงเพื่อน ๆ นก รวมพลังไปเรียกความเป็นธรรมกลับคืนมา เพื่อคืนความสงบสุขให้ท้องฟ้าอีกครา นิทานนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ให้เป็นคนกล้าหาญ เสียสละเพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมของสังคม
ปลดล็อกวิกฤตเชื้อดื้อยา ด้วยรากฐานการอ่านในเด็กปฐมวัย
พาไปดูเทคนิคและรูปแบบการใช้หนังสือนิทานเพื่อสอนเรื่องการดูแลสุขภาพให้กับเด็ก ๆ โดยเฉพาะการไม่กินยาด้วยตัวเอง หรือกินยาพร่ำเพรื่อจนดื้อยา การส่งต่อความรู้เรื่องสุขภาวะให้กับคุณพ่อคุณแม่จากคุณครู ศพด. จาก 4 จังหวัดคือ กรุงเทพ เชียงใหม่ ลำปาง และสงขลา
ปลดล็อกสมองเด็กไทยด้วยขั้นบันไดการอ่าน
เจาะลึกถึงสมรรถภาพการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก เปิดประเด็นปัญหาการศึกษาและวิชาการของเด็กไทยเป็นตัวฉุดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ แม้เราจะรู้ว่าการอ่านเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาเด็กไทยในด้านวิชาการ แต่จากสถิติกลับพบว่าเด็กไทยจำนวนมากยังอ่านหนังสือไม่ออก ใช้เวลาไปกับสื่ออื่น ๆ มากจนส่งผลต่อเนื่องให้เกิดปัญหาการศึกษาและสุขภาวะด้านต่าง ๆ มากมาย ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องมาช่วยกันส่งเสริมเด็กไทยให้รัก 'การอ่าน' ปลดล็อกสมองเด็กไทยให้ฉลาดพร้อม ๆ กับมีสุขภาวะทางด้านอื่นที่ดีขึ้นด้วยไปพร้อมกัน
รายการทุ่งซาวาไรตี้ Ep.13 (ตอน พรของเสือ และ ตอน กินข้าวเหลือ)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.13 มีนิทานทุ่งซ่ามาให้สนุกกัน 2 ตอน ตอนแรกเรื่อง พรของเสือ เป็นนิทานเรื่องเล่าจากภาคใต้ จ. พัทลุง เล่าถึงตำนานการมีลูกของเสือว่าสาเหตุที่เสือมีลูกน้อย เพราะไปขอพรจากพระอินทร์ให้มีลูกได้ครั้งละหลายตัว พระอินทร์ให้แต่มีข้อแม้ว่าระหว่างเดินทางกลับจะต้องท่องพรที่ขอไว้ตลอดว่า “ปีละหนึ่งครอกๆ ละ 7 ตัว” ข่าวรู้ถึงชาวบ้านก็เกิดความหวาดกลัว จึงไปขอร้องให้พระอินทร์ช่วยสร้างอุปสรรคให้เสือท่องผิดเป็น “ 7 ปีหนึ่งครอกๆ ละ 1 ตัว” ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน กินข้าวเหลือ เป็นนิทานจากภาคกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเรื่องของ 2 ครอบครัวที่ฐานะต่างกัน ครอบครัวหนึ่งร่ำรวย แต่กินทิ้งกินขว้าง กับอีกครอบครัวที่ฐานะยากจนแต่ขยันขันแข็งและประหยัดอดออม เมื่อเกิดศึกสงครามข้าวยากหมากแพง ครอบครัวที่ประหยัดอาหารการกินไว้ก็อยู่ได้ไม่ลำบาก ส่วนครอบครัวร่ำรวยแม้มีเงินก็ไม่สามารถซื้อข้าวกินได้ ปิดท้ายรายการด้วยกิจกรรมสนุกกับเงา ให้เด็กๆ ไม่กลัวความมืดและสนุกอย่างสร้างสรรค์กับจินตนาการ
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.11 (ตอน ตาบอดอยากกินแกงไก่ และ ตอน นกกระยางเจ้าเล่ห์)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.11 นำเสนอนิทานทุ่งซ่า ตอน ตาบอดอยากกินแกงไก่ เป็นเรื่องเล่าจาก จ.พัทลุง เล่าเรื่องสองเกลอจอมขโมยที่คนหนึ่งตาบอด คนหนึ่งตาดีแต่ชอบผายลมเสียงดัง ทั้งสองวางแผนจะไปขโมยไก่ของชาวบ้านมาแกงกิน ด้วยความโลภทั้งสองจึงขโมยไก่มากมายหลายตัว จนสุดท้ายไก่หลุดมือ และมีเสียงผายลมดังขึ้น ผลของกรรมที่ก่อไว้จึงตามมาสนอง ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน นกกระยางเจ้าเล่ห์ นิทานจาก จ.กาญจนบุรี เล่าถึงนกกระยางที่ออกอุบายบอกว่าจะพาเหล่าปลาน้อยใหญ่ที่บ่อน้ำแห่งหนึ่ง ไปอาศัยอยู่บ่อน้ำแห่งใหม่ที่ใสสะอาดน่าอยู่ โดยเสนอว่าจะคาบปลาไปส่งที่บ่อน้ำแห่งใหม่ทีละตัว จนในที่สุดปลาเหล่านั้นก็ตกเป็นอาหารอันโอชะของนกกระยางเจ้าเล่ห์ จนกระทั่งมีเพื่อนปูสองตัวที่เกิดความเฉลียวใจ จึงปราบความเจ้าเล่ห์ของนกกระยางได้สำเร็จ ท้ายรายการ ชวนเด็ก ๆ มาทำลูกข่างจากวัสดุธรรมชาติ เช่น มะเขือเปาะ แครอท ฯลฯ
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.6 (ตอน นิทานเรื่องสั้น เรื่องยาวกับสัตว์สามตัวและฝูงนกกระจาบ และ ตอน ความรักของแม่)
รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.6 นี้ มีนิทานทุ่งซ่า ตอน นิทานเรื่องสั้น เรื่องยาว กับสัตว์สามตัวและฝูงนกกระจาบ เป็นนิทานเรื่องเล่าจากหลวงตา จ. พัทลุง ที่กล่าวถึงคุณตานักเล่านิทานท่านหนึ่งที่เด็ก ๆ มักจะมานั่งล้อมวงให้คุณตาเล่านิทานให้ฟังเสมอ ทั้งนิทานที่เป็นเรี่องสั้นที่มีเพียงชื่อตัวละคร และเรื่องยาวแสนยาวที่เล่าทั้งวันก็ไม่หมดเกี่ยวกับสมาชิกนกกระจาบที่แข็งขันเอาตัวรอดจากกับดักชาวบ้าน ส่วนนิทานเรื่องที่สอง ชื่อตอน ความรักของแม่ เป็นนิทานจากคุณตา จ.อุบลราชธานี ที่เล่าถึงความรักของแม่นกกระจอก ที่แม้ยามที่ภัยมาเยือนก็ไม่ละทิ้งลูกน้อย ดูแลปกป้องลูกๆ จนวาระสุดท้ายของชีวิต
ขอตามเม้นท์ ทุกชาติ ทุกชาติไป
หนังสือ 'ขอตามเม้นท์ ทุกชาติ ทุกชาติไป' เป็นการระดมพลังนักเขียนการ์ตูนเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว เกี่ยวกับการบริโภคสื่อของเด็ก เยาวชน และครอบครัว ที่ล้วนแต่มีอิทธิพลต่อความคิด พฤติกรรมของสมาชิกในครอบครัว โดยไม่รู้ตัว เช่น การ์ตูนเรื่อง “ไร้พรมแดน” ที่สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อสมาชิกทุกคนติดหน้าจอ สนใจแต่สื่อสารทางออนไลน์จึงไม่สนใจคนที่อยู่เคียงข้างในขณะนั้น หรือ การ์ตูนเรื่อง “อยากเป็นหมอ” เด็กใฝ่ฝันที่อยากเป็นหมอ แต่วันๆ เอาแต่กินยาบำรุงสมอง และเล่นเกม แล้วจะสอบติดหมอได้อย่างไร?
ร่วมหนุนกองทุนสื่อสร้างสรรค์ฉบับประชาชน
สื่อสีสันสดใสนำเสนอมุมมองที่มาและความสำคัญของการมีกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เพื่อเด็ก-เยาวชนและครอบครัว ฉบับเนื้อหาสำหรับประชาชน ประกอบไปด้วยสถานการณ์และสถิติการใช้สื่อที่น่าเป็นห่วงของเด็กไทย ความสำคัญ กระบวนการ และบทบาทสำคัญในการจัดตั้งกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมถึงบทบาทของภาคประชาชนในการมีส่วนร่วมตรวจสอบให้การออกกฎหมายและการบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ขบวนการนกกระจิ๊ด ตอน เพื่อนใหม่
เรียนรู้เรื่องการยอมรับความหลากหลายผ่านแอนิเมชั่นน่ารัก ๆ เรื่องขบวนการนกกระจิ๊ด ตอนนี้ขบวนการนกกระจิ๊ด ได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น เมื่อวันหนึ่งคุณครูพาเพื่อนใหม่ น้องปอแก้ว ชาวเขาจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ที่ห้องเรียน ชั้น ป.4 ได้รู้จัก แต่กลับถูกเพื่อนล้อเลียนและถามคำถามที่ไม่เหมาะสม เพราะไปติดกับภาพลักษณ์การพูดไม่ชัด สำเนียงชาวเขาจากละครมา ร้อนถึงคุณครูต้องกล่าวตักเตือนไม่ให้กระทำเช่นนี้อีก
ขบวนการนกกระจิ๊ด ตอน การแสดงห้องเรียนชั้น ป.4
จุดประเด็นเรื่องสิทธิพลเมืองและการใช้สิทธิการมีส่วนร่วมตามหลักประชาธิปไตยผ่านการ์ตูนแอนิเมชั่น ขบวนการนกกระจิ๊ด ให้เด็ก ๆ วัยเรียนได้เข้าใจและเรียนรู้ จากสถานการณ์การคัดเลือกการแสดงในเทศกาลปีใหม่ ณ ห้องเรียนชั้น ป.4 ที่เกิดความคิดต่างกัน ระหว่างการร้องเพลง และการแสดงซูปเปอร์ฮีโร่ การโหวตเพื่อเลือกข้างทันที นั้นคือประชาธิปไตยจริงหรือ ??? เอาล่ะ...เพื่อนๆ ในห้องเรียนชั้น ป.4 จะทำอย่างไร ต้องติดตามชม
การ์ตูนไทยสร้างสุข เรื่อง เหตุเกิดที่ห้องเรียน บ้านการ์ตูน
หยิบเรื่องราวเท่าทันสื่อ ถ่ายทอดผ่านลายเส้นการ์ตูนไทย เรื่องราวตอนนี้เกิดขึ้น ณ บ้านการ์ตูน จ. พะเยา ครูสอนศิลปะแปลกใจ เด็กๆ หายไปจากห้องเรียนกันหมด มีเพียง ด.ช. ก็อต ที่ยังอยู่ในห้องเรียน และบอกว่าที่เพื่อนๆ หายไปเพราะไปร้านเกมเล่นอินเทอร์เน็ต ครูศิลปะจึงออกแบบการเรียนการสอนให้เด็กวาดรูปโทรศัพท์มือถือ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของโทรศัพท์มือถือ และสื่อออนไลน์ที่เสพได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่เปรียบเสมือนดาบสองคม ต้องใช้อย่างพอเพียง และไม่เสพติดสื่อออนไลน์มากเกินไป มิเช่นนั้นจะเกิดภัยที่ตามมา เพราะคลื่นแม่เหล็กในโทรศัพท์มือถือ อาจทำให้สมองเสื่อม หูอักเสบ ฯลฯ
อะไรบ้างที่ถือเป็นการรังแกกันบนโลกออนไลน์
Infographic ที่จะช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมเหล่านี้