ก่อการครู PLC ก่อการครู ร.ร.ชุมชนบ้านผานกเค้า
กระบวนการเรียนรู้ที่มีชีวิต หรือ PLC เป็นการเปลี่ยนแปลงการศึกษาที่เน้นการเปลี่ยนแปลงเด็กให้มีความสุขในการเรียนที่มากขึ้น แล้วสุดท้ายก็จะส่งผลมาที่ครูผู้สอนให้มีความสุขด้วยเช่นกัน โรงเรียนชุมชนบ้านผานกเค้า จ.เลย เน้นการเรียนการสอนแบบ PLC ที่มีการเปิดใจ เปิดหู เปิดตาในการเรียนการสอน โดยใช้หลักการฟังทุกเรื่อง ฟังให้จบ มองให้ทั่ว ไม่ด่วนตัดสิน แล้วเมื่อนั้นทั้งศักยภาพของเด็กและครูก็จะเกื้อหนุนกันอย่างมีความสุข
ก่อการครู โมดูล 1 ครูคือมนุษย์
ก่อนที่การเรียนการสอนของครูจะสร้างพลังในการเรียนรู้ให้กับเด็ก “ครู” ต้องรู้จักตัวตนที่แท้จริงของครูก่อน ว่าครูคือมนุษย์ ตระหนักในคุณค่าความเป็นครู ขณะเดียวกันครูก็ต้องเปิดใจยอมรับในศักยภาพ และความแตกต่างของเด็ก ซึ่งในความแตกต่างอาจเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ครูต้องไม่ด่วนตัดสินเด็ก ครูจะต้องเปิดใจ เปิดหู เปิดตา ในการรับฟังเด็กด้วยหัวใจ จากนั้นระบบการศึกษาก็จะเป็นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ไม่ใช่การใช้อำนาจสั่งการและบังคับอีกต่อไป
ก่อการครู วิชา Magical Classroom meaningful learning
เวทมนตร์ของครู คือการเข้าไปนั่งอยู่ในใจของเด็กได้ ครูทุกคนมีเวทมนต์อยู่ในตัวทุกคน ก่อนอื่นครูจะต้องใช้หัวใจในการสอน ในการพูดคุย ในการฟังเด็ก อยู่ในห้องเรียนร่วมกับเด็กด้วยหัวใจ เข้าใจและเรียนรู้ในธรรมชาติของเด็ก ว่าเด็กต้องการอะไร ต้องการสิ่งแวดล้อมแบบไหน ต้องการความปลอดภัยแบบไหน และแบบไหนที่เด็กได้รับแล้วจึงมีความสุข หากครูสามารถสัมผัสหัวใจของเด็กได้ เมื่อนั้นพลังแห่งเวทมนต์ของครูก็จะฉายแสงออกมาทันที
ก่อการครู : ก้าวแรกของก่อการครู
โครงการก่อการครู: ครูบันดาลใจ จุดไฟการเรียนรู้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างเครือข่ายคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์และเครือข่ายที่ทำงานด้านการศึกษาในภาคประชาสังคม ซึ่งโครงการมีเป้าหมายในการสร้างครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง สร้างพื้นที่การเรียนรู้ใหม่และแนวทางการสร้างครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงให้เป็นอีกแนวทางเลือกให้กับการศึกษาไทย โดยจะเพิ่มทักษะองค์ความรู้ต่างๆ ของการเป็นผู้อำนวยการเรียนรู้หรือกระบวนกรให้กับครู เพื่อให้ครูกลับไปยังชั้นเรียนได้อย่างมีพลังและสร้างสรรค์ สามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบใหม่และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนักเรียนในรูปแบบองค์รวม เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนเติบโตไปอย่างมีคุณภาพและช่วยพัฒนาประเทศต่อไป
Collective Happiness สุขร่วมสร้าง
ความสุขที่เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ เริ่มจากตัวเราเองสู่ครอบครัว สู่คนรอบข้าง แล้วค่อยๆส่งต่อความสุขออกไปสู่สังคม ความสุขของคนเราเกิดได้จากหลายปัจจัยที่แตกต่างกัน สุขที่ได้เห็นคนในครอบครัวหรือคนที่เรารักมีความสุข สุขจากการที่ได้ทำกิจกรรมที่เรารัก สุขที่ได้ทานของอร่อย สุขแบบพอเพียง สุขที่ได้ร่วมช่วยเหลือแบ่งปัน หากคนในสังคมมีความสุข มีสุขสภาพจิตใจที่พร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ของตน ย่อมส่งผลดีต่อการพัฒนาสังคมและยังเป็นการร่วมกันช่วยลดความทุกข์ให้สังคมให้เกิดสุขในภาพรวมได้
ก่อการครู : ทัศนะ ดร.กันตพงศ์ คงหอม ครูแกนนำรุ่น 1
ดร.กันต์พงศ์ คงหอม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสี่แยก ครูแกนนำในโครงการก่อการครู ครูบันดาลใจ จุดไฟการเรียนรู้ รุ่นที่หนึ่ง และ นายสมโชค อารยา ประธานเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนบ้านสี่แยก ได้ร่วมกันผลักดันและจุดประกายให้เกิดการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยให้ผู้ปกครองและคนในชุมชนมีส่วนร่วมส่งเสริมในจุดที่ขาดหายไป เพื่อสร้างความสมดุลและให้เด็กในชุมชนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่ดีได้ รวมถึงได้นำหลักการระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้มาปรับใช้ในการพัฒนาโรงเรียน เพื่อทำให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการเรียนรู้
สารคดีชุด สูงวัยรู้ทันสื่อ ตอน ทำไมสูงวัยต้องรู้ทันสื่อ
ในยุคของการสื่อสารดิจิทัล เครื่องมือการสื่อสารอย่างสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตกลายเป็นของคู่กายของผู้สูงวัย ในยามที่ลูกหลานไม่อยู่ไปทำงานหรือเรียนหนังสือ ผู้สูงวัยจะเข้าถึงสื่อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งก็มีทั้งข้อดี คือ เป็นช่องทางการสื่อสารที่ได้พบเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ให้คลายเหงา มีข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ ให้รับรู้และเข้าร่วม แต่ก็แฝงไว้ด้วยข้อเสีย เพราะเป็นความเสี่ยงที่มิจฉาชีพจะใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงผู้สูงวัยได้ ดังนั้นจำเป็นที่ผู้สูงวัยต้องเรียนรู้ และเท่าทันสื่อยุคใหม่
สารคดีชุด สูงวัยรู้ทันสื่อ ตอน ผู้สูงวัยกับสื่อสมัยใหม่
เมื่อกระแสการผลิตและการรับชมสื่อในยุคปัจจุบันเปลี่ยนไป จากสื่อดั้งเดิมในกระแสหลักอย่างวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสารต่าง ๆ ได้เกิดการหลอมรวมเป็นสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงผู้รับชมได้ทุกที่ ทุกเวลา ผู้สูงอายุจำเป็นต้องเรียนรู้และปรับตัว เพื่อนำเทคโนโลยีในการสื่อสารยุคดิจิทัลมาเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายทางภูมิปัญญา ศิลปะวัฒนธรรม เพื่อสร้างศักยภาพให้กับตนเอง
สารคดีสูงวัยรู้ทันสื่อ ตอน วิธีการป้องกันผู้สูงวัยการโดนหลอกลวงจากสื่อ
ผู้สูงวัย เป็นช่วงวัยที่มีเวลาว่างเยอะ สมาร์ทโฟนหรือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จึงเป็นสื่อรูปแบบใหม่ที่ผู้สูงวัยใช้คลายเหงาเป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นสาเหตุของความเสี่ยงที่คนแปลกหน้าจะมาพูดคุย และหลอกลวงได้ ลูกหลานจึงต้องหาเวลาพูดคุยกับผู้สูงวัยเป็นประจำ เพื่อป้องกันภัยการหลอกลวงจากสื่อ ที่สำคัญเพื่อดูแลปู่ย่าตายายไม่ให้ใช้สื่อมากเกินไปจนส่งผลให้เสียสายตาและสุขภาพได้
สารคดีชุด สูงวัยรู้ทันสื่อ ตอน คาถาสูงวัยรู้ทันสื่อ
ผู้สูงอายุ ที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่บ้าน บางครั้งก็จะถูกสื่อต่างโฆษณาเชิญชวนให้มีความอยากซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ เกินความจำเป็น ผู้สูงอายุจึงต้องมีคาถาในการรู้เท่าทันสื่อทั้งหลาย ว่า จำเป็นไหม...ไปหาข้อมูลก่อน...เดือดร้อนใครหรือไม่ ท่องไว้ให้ดีก่อนที่จะจ่ายเงินในการซื้อสินค้าและบริการตามคำโฆษณา
กรุ๊ปเลือดเมา
โครงการปิ๊งส์ โดย แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กรมควบคุมโรคไม่ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข กรมการขนส่งทางบก กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และเครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย เชิญชวน เยาวชน หรือ บุคคลทั่วไป อายุระหว่าง 15 -25 ปี ทั่วประเทศ ร่วมส่งสคริปต์ และรูปแบบในการนำเสนอ เพื่อคัดเลือกเป็นทีมที่เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) จำนวน 20 ทีมและ 10 ทีมสุดท้าย เพื่อรับทุนสนับสนุนผลิตผลงาน ในโครงการประกวดคลิปสั้น สารคดีสั้น และหนังสั้นด้วยมือถือ ด้วยโทรศัพท์มือถือ หัวข้อ “อย่าปล่อยให้เหล้ามาลวงเรา” ภายใต้โจทย์ กรุ๊ปเลือดเมา = คุก และ หยุดโฆษณาแฝงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แนะนำแผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา (Long Version บทบรรยายไทย)
คลิปวิดีโอแนะนำแผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา สสส. (Long Version/ มีบทบรรยาไทย) : สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระบบสื่อยุคหลอมรวม สื่อดิจิทัลกลายเป็นสื่อกระแสหลักในสังคมโลก ได้ขยายบทบาทประชาชนจาก ‘ผู้รับสื่อ’ ให้กลายเป็นทั้ง ‘ผู้ใช้และผู้สร้างสื่อ’ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ยังรับและใช้สื่ออย่างไม่รู้เท่าทัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะในทุกมิติ เพื่อเป็นการเสริมสร้างปัจจัยที่จะโน้มนำคนไทยให้มีวิถีชีวิตสุขภาวะท่ามกลางบริบทของสังคมในยุคศตวรรษที่ 21 รวมถึงการพัฒนาคนสู่เป้าหมายของชาติ อันเป็นภารกิจของ สสส. แผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา สำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้กำหนดเป้าหมายหลักการทำงานมุ่งให้ ‘คนไทยฉลาดใช้สื่อเป็นเครื่องมือเพื่อนำไปสู่วิถีชีวิตสุขภาวะ’