กิจกรรมวันปิดเทอม
เมื่อถึงช่วงปิดเทอม พ่อแม่ที่มีลูกวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ซึ่งเป็นวัยแห่งการแสวงหาความรู้ และท้าทายความแปลกใหม่ ควรจะลองหากิจกรรมทำร่วมกับลูก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพากันไปออกกำลังกาย ไปท่องเที่ยว เข้าค่าย และให้ลูกลองไปสร้างเสริมประสบการณ์การทำงานพาร์ตไทม์ หรือกิจกรรมจิตอาสาก็จะเป็นผลดีต่อพัฒนาการทางจิตใจ
แคลเซียมเปี่ยมประโยชน์
จากการสำรวจเด็กนักเรียนไทยทั่วประเทศกว่า 6 ล้านคน พบว่าเป็นเด็กเตี้ย กว่า 2 แสนคน เป็นเด็กอ้วนกว่า 1 แสนคน และเป็นเด็กผอมกว่า 9 หมื่นคน ซึ่งเป็นผลจากการขาดสารอาหารหรือบริโภคแคลเซียมต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสติปัญญา การเรียนรู้ช้า ภูมิต้านทานต่ำและติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นเด็ก ๆ ควรเสริมสร้างโภชนาการ บริโภคแคลเซียมให้พอเหมาะตามช่วงอายุ โดยอาหารที่มีแคลเซียมสูง ได้แก่ นมจืด โยเกิร์ต ปลาตัวเล็ก และผักคะน้า
ของกินหน้าโรงเรียน
หน้าโรงเรียนมักมีอาหารและขนมล่อใจเด็ก ๆ ลิ้มลองมากมาย ทั้งน้ำหวาน น้ำอัดลม อาหารปิ้งย่างปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง อาหารทอดที่มีไขมันสูง ซึ่งถ้าเด็กบริโภคเป็นประจำอาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมอาหารว่างที่พกพาสะดวกให้ลูก ๆ ไปทานที่โรงเรียน อาทิ ผลไม้ แซนด์วิช และนมกล่อง
เรียนจนหลังหัก
นักเรียนไทยจำนวนมากแบกกระเป๋าหนักเกินมาตรฐาน เฉลี่ย 6 กิโลกรัมต่อคน โดยแท้จริงน้ำหนักกระเป๋าที่เหมาะสมกับเด็กต้องไม่เกิน 10 % ของน้ำหนักตัวเด็ก มิเช่นนั้นจะส่งผลกระทบทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านความสูง โครงสร้างกระดูกมีปัญหา และเดินทางไม่ปลอดภัย ส่วนวิธีการลดน้ำหนักกระเป๋านักเรียน เริ่มจากคุณครูต้องจัดตารางเรียน และหลักสูตรที่เหมาะสม เพื่อเด็กจะได้จัดกระเป๋าให้สอดคล้องกับตารางสอนทุกวัน รวมทั้งต้องมีระบบการจัดเก็บหนังสือและอุปกรณ์การเรียนไว้ที่โรงเรียน
หวานพอดีที่ 4 กรัม
ปัจจุบันน้ำตาลในซองสำเร็จรูปมีหลายขนาด ให้เลือกใช้ขนาดน้อยที่สุดเพียง 4 กรัม ซึ่งเท่ากับ 1 ช้อนชา เพราะปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมต่อวันของคนเรานั้น ถ้าเป็นเด็กไม่เกิน 4 ช้อนชา ผู้ใหญ่ไม่เกิน 6 ช้อนชา หากบริโภคน้ำตาลเกินจะมีโรคต่างๆ ตามมา ทั้งโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด
กินอะไรในวัยเรียน
เด็กในวัยเรียนคือเด็กอายุระหว่าง 6-12 ปี วัยนี้จะมีพัฒนาการทั้งทางร่างกาย จิตใจ และการเรียนรู้ที่เยี่ยมยอด คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเรื่องโภชนาการของลูกอย่างใกล้ชิด เลือกอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการของลูกอย่างดีที่สุดต่อหนึ่งวัน และควรหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง รสจัด สุก ๆ ดิบ ๆ น้ำอัดลม ชา กาแฟ และขนมหวานต่างๆ
โรคสมองพิการ C.P.
โรคสมองพิการ C.P. หรือ Cerebral Palsy คือกลุ่มโรคอาการพิการทางสมองอย่างถาวรและคงที่ ส่งผลกระทบทำให้เด็กมีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว และอาจมีปัญหาอื่นๆ ที่ซ้ำซ้อน สาเหตุอาจมาจากคุณแม่ติดเชื้อระหว่างการตั้งครรภ์ หรือระหว่างคลอดเด็กขาดออกซิเจน รติดเชื้อขณะยังเล็ก หรือเด็กเกิดอุบัติเหตุ เช่น การจมน้ำ สำลักน้ำ การฟื้นฟูดูแลเด็ก C.P. คือการกระตุ้นพัฒนาการทางสมองให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในกิจวัตรประจำวัน การทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง
แพ้อาหารไม่ใช่เรื่องเล็ก
การแพ้อาหารเป็นโรคประเภทหนึ่ง ผู้ป่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติต่ออาหารประเภทนั้น เช่น อาหารทะเล นม ถั่ว ฯลฯ อาการที่พบอาจมีตั้งแต่เป็นลมพิษ ปวดท้อง หายใจลำบาก เกิดภาวะช็อก หมดสติ บางครั้งรุนแรงอาจถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นควรมีการดูแลป้องกัน ด้วยการรู้ตัวเราว่าแพ้อาหารอะไร และหลีกเลี่ยงการทานอาหารนั้น ฝึกอ่านฉลากทุกครั้งที่จะทานอาหารต่าง ๆ ให้เป็นนิสัย และควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาแก้แพ้ติดตัวเสมอ
เข้าใจวัคซีนผิดๆ ทำเด็กป่วย
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจกังวลเรื่องการฉัดวัคซีนให้ลูก เรามาทำความเข้าใจเรื่องวัคซีนกันเถอะ วัคซีนแม้จะทำจากไวรัสและแบคทีเรีย แต่ก็ไม่ได้เป็นพิษ กลับเป็นสารกระตุ้นให้ร่างกายสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วัคซีนไม่ได้ก่อให้เกิดโรคออทิสติก หรือทำให้เป็นหมัน มีบุตรยาก เพียงคุณพ่อคุณแม่นำลูกไปรับวัคซีนตามวัย และอยู่ในความดูแลของแพทย์ ก็จะสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูก ๆ ได้
ฝึกลูกน้อยกินผัก
มาสร้างความคุ้นเคยให้เด็กชอบกินผักกัน คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มตั้งแต่เด็กยังเล็ก อายุ 6 เดือน เลือกผักรสกลาง ๆ ปรุงให้เปื่อย และย่อยง่าย อายุ 10 – 12 เดือน เลือกผักมีกากใยที่เคี้ยวได้ อย่างกระหล่ำปลี พออายุ 2 – 3 ขวบ กินได้ทั้งผัดสดและผักดิบ นำมาผสมในเมนูโปรดของลูก สำหรับเด็กโต นำผักมาดัดแปลงทั้งรูปร่างและสีสันให้น่ากินมากยิ่งขึ้น
เด็กกินอะไร เวลาอยู่ในโรงเรียน
เด็กไทยในวันนี้จะไม่เป็นผู้ใหญ่อ้วนในวันหน้า ถ้าพ่อแม่ปลูกฝังให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์ โรงเรียนกวดขัน ดูแล และควบคุมร้านค้าที่ขายอาหารและขนมภายในโรงเรียน ไม่ให้มีขนมกรุบกรอบ น้ำหวาน ไอศกรีม และขนมไร้ประโยชน์ต่างๆ และที่สำคัญคือเด็ก ๆ ต้องมีความรู้เรื่องสุขภาพ ดูแลตัวเอง รู้จักเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
อุนจิ กำลังบอกอะไรเรา
อุจจาระของคนเรา สามารถบอกถึงสุขภาพภายในได้ คนที่ถ่ายอุจจาระมีลักษณะลอยน้ำ แสดงว่าทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีกากใยเยอะ ส่วนคนที่อุจจาระจม แสดงว่าทานเนื้อสัตว์มากไป และสีของอุจจาระยังบ่งบอกภาวะเสี่ยงของโรคได้เช่น หากมีสีดำและสีแดง แสดงว่าระบบทางเดินอาหารกำลังมีปัญหา ดังนั้นการสังเกตอุจจาระตนเอง ก็จะช่วยตรวจเช็คสุขภาพได้ในระดับหนึ่งด้วย