หลักสูตรการสร้างสรรค์บทละครโทรทัศน์
บ่อยครั้งที่เราดูละครและเกิดอาการ “อิน” หรือ คล้อยตามพฤติกรรมของตัวละครในเรื่อง เพราะเนื้อหาและบทบาทของตัวละครในบางเรื่องอาจมีความคล้ายคลึงกับโลกแห่งความจริงในสังคม ละครโทรทัศน์ที่เราดูอยู่ทุกคืนจึงมีอิทธิพลโน้มน้าวพฤติกรรมของคนในสังคมได้ง่าย อีกทั้งละครโทรทัศน์เองยังเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มคนดูได้ง่ายที่สุด การผลิตละครโทรทัศน์ให้มีคุณภาพที่ดี นอกจากจะให้ความสนุกเพลิดเพลินแล้ว ควรให้ทั้งแง่คิดและสร้างทัศนคติที่ดีต่อคนดูและสังคม หลักสูตรการสร้างสรรค์บทละครโทรทัศน์ เพื่อการสร้างสรรค์ละครโทรทัศน์ในมิติใหม่ ที่สามารถส่งเสริมสังคมให้เกิดปัญญาและชักนำคนดูให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยยังคงไว้ซึ่งความกลมกลืนระหว่างพาณิชย์และศิลปะ เพื่อความสุนทรีย์ในชีวิตของคนในสังคม
ละคร มิติสื่อเชิงสร้างสรรค์ต่อสังคม
น้อยคนนักที่จะปฏิเสธว่าไม่เคยดูละครหลังข่าว ละครโทรทัศน์ ธุรกิจการผลิตวัฒนธรรมของสังคมสมัยใหม่ที่สะท้อนแง่มุมและกระแสชีวิตที่เกิดขึ้นในสังคมในรูปแบบความบันเทิง แต่จะทำอย่างไรให้ละครโทรทัศน์ที่มีอิทธิพลต่อคนในสังคมมีความสร้างสรรค์สามารถนำพาสังคมไปสู่สังคมที่ดีกว่าได้และยังมีความกลมกลืนกันระหว่างพาณิชย์และศิลปะที่สร้างความสุนทรีย์ในชีวิตให้กับคนดูในสังคม บทความ ละครมิติสื่อเชิงสร้างสรรค์ต่อสังคม ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างบุคลากรฝ่ายการละครโทรทัศน์และสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. ในเวทีเสวนา การสร้างสื่อละครมิติใหม่ ที่สามารถชักนำสังคมและชักจูงให้คนดูมีปฏิสัมพันธ์อย่างเหมาะสมกับผู้คนรอบข้างและสังคม เพื่อทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่น่าอยู่และมีสุขภาวะที่ดี ครบทั้ง 4 มิติ
ภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้
ภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้ เป็นผลผลิตจากแนวคิดของ 6 ภาคีเครือข่ายสุขภาวะทางปัญญา สนับสนุนโดย สสส. มีจุดประสงค์เพื่อช่วยสนับสนุนให้คนไทยสามารถปรับตัวรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ปรับตัวอยู่กับวิถีชีวิตใหม่ได้อย่างมีความสุขทั้งกายและใจ ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสในการทำกิจกรรมช่วยเพิ่มความสุขใน 4 มิติ โดยนำเสนอกิจกรรมที่สามารถเติมความสุขและสติให้กับใจได้ต่อเนื่อง 14 วัน
สัมพันธภาพกับการคลี่คลายความขัดแย้ง
เมื่อพบกับความขัดแย้งเรามักนึกถึงอยู่แค่คำว่า แพ้หรือชนะ กรอบความคิดเหล่านี้ล้วนมาจากจิตใต้สำนึกและมีอิทธิพลต่อท่าทีที่เราสื่อสารกับผู้อื่น การจะเปลี่ยนผ่านความขัดแย้งไปสู่การเรียนรู้และเติบโตได้นั้น เราต้องมีความตระหนักรู้ทั้งกาย ใจ ความคิด ความสัมพันธ์ เข้าใจอัตลักษณ์ตัวตนของผู้อื่นและตระหนักรู้ถึงความขัดแย้งที่ซ่อนอยู่ในตัวตนของเรา สัมพันธภาพกับการคลี่คลายความขัดแย้งชุดนี้ จะพาเราเปลี่ยนผ่านความขัดแย้งไปสู่การเรียนรู้ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้และช่วยให้เราตอบรับกับสถานการณ์ความขัดแย้งต่างๆ ด้วย “สติ” และ “ความเข้าใจ”
วิเคราะห์สังคมไทยและสังคมโลก
บทสรุปวิเคราะห์สังคมไทยและสังคมในประเทศต่างๆ ของโลก ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบของสังคมในยุคที่ผ่านมา การต่อสู้เรื่องเสรีภาพ ประชาธิปไตย เพศสภาพ ชนชั้น การคอรัปชั่นและการต่อสู้กับปัญหาภายในของแต่ละประเทศจนถึงทุกวันนี้ รวมถึงแนวคิดทางเลือกและทฤษฎีต่างๆ ที่นำมาใช้ในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ บทวิเคราะห์ฉบับนี้จะเป็นแนวทางทำให้เราเข้าใจกับความเป็นมาของสังคม การต่อสู้และการเปลี่ยนแปลงในสังคมของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทยของเราได้อย่างมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
พลานุภาพแห่งการรู้เท่าทันประชาธิปไตยเชิงลึก
ผลงานวิจัยประชาธิปไตยเชิงลึกที่จะทำให้เราเข้าใจความหมายของคำว่า “ประชาธิปไตย” ในมิติที่ลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณ พร้อมทั้งจะสร้างประสบการณ์แห่งการตระหนักรู้ในความจริงที่สอดคล้องกันระหว่างโลกภายในและภายนอก ประชาธิปไตยเชิงลึกนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดความคิดทางการเมือง แต่ยังเป็นวิธีการทำงานกับผู้คน วิธีการพัฒนาตนเองในระดับปัจเจกบุคคล รวมถึงเทคนิคและกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง เพื่อการสร้างชุมชนและสังคมที่เข้มแข็ง
นิเวศวิทยาแนวลึก
บทความที่จะช่วยเปิดโลกทัศน์ของเราให้เข้าใจความหมายของระบบนิเวศวิทยาแนวลึกและเปลี่ยนวิถีความคิดเดิมๆ ของเราที่มีต่อธรรมชาติ เพราะธรรมชาติไม่ได้เกิดมาเพื่อรับใช้มนุษย์ แต่ทุกสรรพสิ่งมีคุณค่าในตัวเองและล้วนมีความเชื่อมโยงกัน มนุษย์เราเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบนิเวศไม่ได้มีความสำคัญที่สุดในข่ายใย อีกทั้งมนุษย์เองที่นำมาซึ่งวิกฤตสิ่งแวดล้อม แนววิถีคิดเดิมของเราที่มีต่อธรรมชาติไม่สามารถแก้ไขวิกฤตสิ่งแวดล้อมได้ ทางออกของวิกฤตนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงวิถีความคิดเดิมและทำความเข้าใจต่อระบบนิเวศวิทยา ว่าทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติล้วนเชื่อมโยงและต้องพึ่งพาอาศัยกัน
นิเวศภาวนา ค้นหาตนเองในธรรมชาติแห่งป่าเขา
ในโลกสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายทุกคนต่างใช้ชีวิตกันอย่างรีบเร่งเหมือนเครื่องจักร ธรรมชาติและพิธีกรรมเก่าแก่ถูกหลงลืม ถูกลดคุณค่าและถูกมองเป็นเรื่องที่ไกลตัว มนุษย์สมัยใหม่ส่วนใหญ่ถูกหลอมรวมเข้าไปในความสับสนวุ่นวายของสังคมและกำลังเผชิญกับความขัดแย้งในตัวเอง สุดท้ายกลายเป็นสับสนและหาคุณค่าความหมายของตัวเองไม่พบ นิเวศภาวนา ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คนได้ค้นพบความหมายของชีวิตและบทบาทของตนเองในโลกนี้ โดยผ่านกระบวนการเชื่อมโยงคนเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เพื่อละทิ้งตัวตนเดิม สู่การเปลี่ยนผ่านเข้าชีวิตใหม่อย่างตระหนักรู้ถึงความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งในธรรมชาติและคุณค่าที่แท้จริงของตัวเราในโลกนี้
คู่มือวิถีกระบวนกร การจัดกระบวนการเรียนกระบวนการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มพลังชีวิต
กระบวนกร คือ ผู้ที่มีทั้งศาตสร์และศิลป์ในการจัดกระบวนการเรียนรู้เชิงลึกและมีพลังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงทัศนคติและพฤติกรรมของผู้เรียนไปจนถึงความสัมพันธ์ในระดับองค์กรและสังคม คู่มือวิถีกระบวนกรชุดนี้ มีเนื้อหาเข้มข้นเต็มไปด้วยความรู้ที่จะทำให้เข้าถึงความหมายของชีวิตได้อย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยดึงศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวกระบวนกรออกมาใช้สร้างคุณค่าในการรับใช้เพื่อนมนุษย์ได้อย่างมีความหมาย เพื่อต่อยอดการเปลี่ยนแปลงให้กระจายออกไปสู่วงกว้างในสังคม
คู่มือนิเวศภาวนา เตรียมการเดินทาง ค้นหาตัวเองในธรรมชาติแห่งป่าเขา
“ชีวิตคือการเดินทางอยู่ทุกขณะจิต” มนุษย์เราเริ่มออกเดินทางตั้งแต่วินาทีแรกที่เราเกิดมาและระหว่างการเดินทางนั้น เราได้เรียนรู้ ได้ถูกหล่อหลอมขึ้นมาจากสิ่งที่เราได้ประสบพบเจอในสังคมและตลอดเวลาเราต้องเผชิญกับสิ่งที่ทำให้เราสับสนหรือแม้กระทั่งรู้สึกหมดคุณค่าในตัวตน แล้วการเดินทางแบบไหนที่จะสร้างคุณค่าและการตระหนักรู้ให้กับเรา? คู่มือเตรียมการเดินทางค้นหาตัวเองในธรรมชาติแห่งป่าเขา หรือ นิเวศภาวนา ฉบับปี 2563 คือ คู่มือเตรียมความพร้อมในการเดินทางกลับสู่บ้านภายในที่จะนำเรากลับไปค้นหาตัวตนและคุณค่าที่แท้จริงของเราอย่างตระหนักรู้และเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เพื่อนำคุณค่าที่เราค้นพบในธรรมชาติกลับมาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับตัวเราและสังคม
การสื่อสารด้วยความกรุณา
หลายครั้งที่การสื่อสารของเรานำไปสู่การเข้าใจผิดและเกิดความขัดแย้งระหว่างเราและผู้ที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วย ซ้ำร้ายบางความสัมพันธ์ต้องพังลงเพราะการสื่อสารที่ผิดพลาดไม่ตรงความต้องการและความรู้สึกของเราที่ต้องการจะสื่อ ทว่าการจะสื่อสารให้ตรงตามความรู้สึกของแต่ละฝ่ายนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน การสื่อสารด้วยความกรุณาและการฟังอย่างลึ้งซึ้งด้วยหัวใจ จึงมีความสำคัญและเป็นหัวใจหลักของการสื่อสารที่จะช่วยทลายกำแพงอคติทางความคิด เพื่อช่วยให้ทุกฝ่ายเข้าใจกันและกันให้ลึกไปกว่าคำพูดและเข้าถึงความต้องการของทุกฝ่าย