Filter
ประเภทสื่อ
คำค้นหา "ชา" พบ 349 ข้อมูล

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.16 (ตอน เกือบจะทิ้งพ่อ และ ตอน เศรษฐี ลูกชายและม้า)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.16 พบกับนิทานทุ่งซ่า ตอน เกือบจะทิ้งพ่อ เป็นนิทานจากภาคกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าถึงลูกชายคนหนึ่ง ที่มีฐานะยากจน มีภรรยาและลูก 3 คนที่ต้องเลี้ยงดู และยังต้องดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับพ่อของตนเองที่ชราและตาบอด จึงวางแผนจะนำพ่อของตนเองไปทิ้งเพราะไม่อยากรับภาระ แต่แล้วก็คิดได้และสำนึกผิดว่าเมื่อถึงตนเองชราบ้าง ลูกๆ ที่พบตัวอย่างไม่ดีของพ่อที่ทำกับปู่ ก็จะต้องทิ้งพ่อคือตนเองด้วยเช่นกัน ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน เศรษฐี ลูกชายและม้า เป็นนิทานจากภาคใต้ จ.พัทลุง เล่าถึงครอบครัวเศรษฐี ที่มีชีวิตสุขสบายตามประสาพ่อแม่ลูก  มาวันหนึ่งภรรยาล้มป่วย  จึงเสียเงินเสียทองรักษาไปจำนวนมาก ทรัพย์สมบัติเริ่มร่อยหรอจนเหลือม้าเพียงตัวเดียว จึงตัดสินใจนำม้าไปขายในเมือง ระหว่างที่เดินทางไปนั้น ชาวบ้านต่างซุบซิบนินทาการจูงม้า ของเศรษฐีและลูกมาตลอดทาง ปิดท้ายด้วยกิจกรรมฝึกความคิดสร้างสรรค์ให้เด็ก ๆ ด้วยการทำเรือจากกาบมะพร้าวและวัสดุธรรมชาติ

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.14 (ตอน ชาวนากับงูเหลือม และ ตอน คำสอนของอาจารย์)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.14 พบกับนิทานทุ่งซ่า ตอน  ชาวนากับงูเหลือม เป็นนิทานจากภาคเหนือ จ.เชียงราย เล่าถึงชาวนาผู้หนึ่ง เป็นคนดี ใจบุญสุนทาน ขยันขันแข็งทำมาหากินเลี้ยงชีพ วันหนึ่งเกิดพลัดหลงกับควายของตนเอง จึงเดินตามหาในป่าลึก พบกับงูเหลือมที่จะมาทำร้ายตนเอง แต่ด้วยคุณงามความดีที่ทำไว้ สัตว์ร้ายต่าง ๆ จึงไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ชาวนาได้ ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน  คำสอนของอาจารย์ เป็นนิทานของ จ.พัทลุง เล่าถึงอาจารย์ที่มอบคำสอนให้กับลูกศิษย์ซึ่งร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้จนจบและจะเดินทางกลับบ้านว่า “อยู่สูงให้นอนคว่ำ อยู่ต่ำให้นอนหงาย” ซี่งเมื่อลูกศิษย์เชื่อฟังคำสอนของอาจารย์เช่นนี้ จึงทำให้พวกเขารอดพ้นจากอันตรายต่าง ๆ ระหว่างการเดินทาง ปิดท้ายด้วยการประดิษฐ์หุ่นเงา ให้การเล่นหุ่นเงามีสีสันที่หลากหลาย

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.10 (ตอน ชายขี้เกียจ และ ตอน ลูกแมวเอาแต่ใจ)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.10 เรียนรู้เรื่องราวสนุก ๆ จากนิทานทุ่งซ่า ตอน ชายขี้เกียจ  เป็นเรื่องเล่าจากภาคเหนือ เนื้อเรื่องกล่าวถึงชายคนหนึ่งที่ตอนเป็นเด็กไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ ลาออกมาตั้งแต่ ป.4 ยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มาทำอาชีพหาของป่า อยู่มาวันหนึ่งเกิดหลงป่า และอ่านป้ายเตือนหน้าถ้ำไม่ออก จนทำให้ประสบกับความยากลำบาก ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน ลูกแมวเอาแต่ใจ เป็นนิทานจากภาคอีสาน เล่าถึงแมวแม่ลูกที่อาศัยอยู่กับเศรษฐีอย่างสุขสบาย อยู่มาวันหนึ่งไฟไหม้บ้านเศรษฐี แมวแม่ลูกจึงต้องมาเลี้ยงดูตัวเอง ในแต่ละวันแม่แมวต้องไปหาอาหารมาให้ลูกแมวกินเสมอ เพราะลูกติดความสบายเมื่อสมัยอยู่บ้านเศรษฐี พอแม่แมวไม่สบาย หาอาหารมาให้ลูกกินไม่ได้ ลูกแมวก็ออกฤทธิ์เอาแต่ใจ เที่ยวตามหาแม่ใหม่มาให้ตนเอง จนสุดท้ายได้เรียนรู้ว่า ไม่มีแม่ที่ไหนดีเท่าแม่ของเราเอง ท้ายรายการชวนเด็ก ๆ มาทำนาฬิกาสำหรับนักเล่านิทาน งานศิลปะที่ช่วยให้การเล่านิทานสนุกยิ่งขึ้น

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.8 (ตอน แม่วัวซื่อสัตย์กับเสือ และ ตอน คนบุญหนักหาบ คนบาปมักเบา)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.8 พบกับ นิทานทุ่งซ่า ตอน แม่วัวซื่อสัตย์กับเสือ เป็นนิทานเรื่องเล่าจากภาคใต้ โดยคุณตา จ.พัทลุง เรื่องมีอยู่ว่า ณ ป่าแห่งหนึ่ง แม่วัวลูกอ่อนออกไปหาอาหารกินริมทุ่งแล้วพบเสือ เสือจะจับแม่วัวกินเป็นอาหาร แม่วัวจึงอ้อนวอนให้ตนเองกลับไปบอกลาลูกน้อยก่อนแล้วจะยอมมาเป็นอาหารให้เสือ แต่พอเมื่อลูกวัวน้อยรู้เรื่องนี้ก็คิดเสียสละจะให้เสือกินตนเองแทนแม่ เสือเห็นความรักที่ยิ่งใหญ่ของแม่วัวและลูกวัว จึงยอมไว้ชีวิตวัวแม่ลูกคู่นี้ ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน คนบุญหนักหาบ คนบาปมักเบา เป็นเรื่องเล่าจากคุณตา จ.เชียงราย เล่าถึงเด็กๆ ที่เดินทางเข้าป่าตามนายพรานหวังจะไปเที่ยวเล่น หาของป่า แต่กลับหลงป่า  เมื่อมีเทวดามาอธิบายให้เก็บก้อนหินระหว่างทางเดินทางกลับบ้าน ก็มีแต่เด็กขี้เกียจไม่ยอมทำ แต่มีเด็กคนหนึ่งทำตามคำของเทวดา เมื่ออกจากป่าได้ ก้อนหินเล่านั้นก็กลายเป็นแก้วแหวนเงินทองมากมาย ตอนท้ายรายการ มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้เด็ก ๆ เล่นอย่างสร้างสรรค์ด้วยการนำวัสดุธรรมชาติมาสร้างสรรค์เป็น 'ภาพพิมพ์ธรรมชาติ'  

ขอตามเม้นท์ ทุกชาติ ทุกชาติไป

หนังสือ 'ขอตามเม้นท์ ทุกชาติ ทุกชาติไป' เป็นการระดมพลังนักเขียนการ์ตูนเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว เกี่ยวกับการบริโภคสื่อของเด็ก เยาวชน และครอบครัว ที่ล้วนแต่มีอิทธิพลต่อความคิด พฤติกรรมของสมาชิกในครอบครัว โดยไม่รู้ตัว เช่น การ์ตูนเรื่อง “ไร้พรมแดน” ที่สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อสมาชิกทุกคนติดหน้าจอ สนใจแต่สื่อสารทางออนไลน์จึงไม่สนใจคนที่อยู่เคียงข้างในขณะนั้น หรือ การ์ตูนเรื่อง “อยากเป็นหมอ” เด็กใฝ่ฝันที่อยากเป็นหมอ  แต่วันๆ เอาแต่กินยาบำรุงสมอง และเล่นเกม  แล้วจะสอบติดหมอได้อย่างไร?

ร่วมหนุนกองทุนสื่อสร้างสรรค์ฉบับประชาชน

สื่อสีสันสดใสนำเสนอมุมมองที่มาและความสำคัญของการมีกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เพื่อเด็ก-เยาวชนและครอบครัว ฉบับเนื้อหาสำหรับประชาชน ประกอบไปด้วยสถานการณ์และสถิติการใช้สื่อที่น่าเป็นห่วงของเด็กไทย ความสำคัญ กระบวนการ และบทบาทสำคัญในการจัดตั้งกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมถึงบทบาทของภาคประชาชนในการมีส่วนร่วมตรวจสอบให้การออกกฎหมายและการบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

MIDL กับพลเมืองประชาธิปไตย

คลิปอินโฟกราฟิกนำเสนอข้อมูลประเภทหรือกลุ่มของพลเมืองที่มีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อ สารสนเทศ และดิจิทัลในระดับที่แตกต่างกันให้เข้าใจได้อย่างง่าย ๆ โดยในสังคมประชาธิปไตย เราแบ่งกลุ่มพลเมืองในการรู้เท่าทันสื่อ สารสนเทศ และดิจิทัล  ออกเป็น 3 ระดับ คือ พลเมืองที่มีความรับผิดชอบ ที่คิด วิเคราะห์ และประเมินคุณค่าของสื่อได้อย่างดี สามารถนำไปปรับใช้เพื่อประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ถัดมาคือ พลเมืองที่มีส่วนร่วม ซึ่งนอกจากมีความเข้าใจสื่ออย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังพัฒนาและผลิตเนื้อหา ข่าวสารให้เกิดประโชยน์ต่อชุมชน สังคมอย่างมีความรับผิดชอบและมีจริยธรรม สุดท้ายคือพลเมืองที่มุ่งเน้นความเป็นธรรมของสังคม มีการใช้สื่อเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม อย่างมีเสรีภาพ เน้นการผลักดันเชิงนโยบาย กฎหมาย สร้างวัฒนธรรมของสื่อที่ดีและมีคุณภาพ

ขบวนการนกกระจิ๊ด ตอน การแสดงห้องเรียนชั้น ป.4

จุดประเด็นเรื่องสิทธิพลเมืองและการใช้สิทธิการมีส่วนร่วมตามหลักประชาธิปไตยผ่านการ์ตูนแอนิเมชั่น ขบวนการนกกระจิ๊ด ให้เด็ก ๆ วัยเรียนได้เข้าใจและเรียนรู้ จากสถานการณ์การคัดเลือกการแสดงในเทศกาลปีใหม่ ณ ห้องเรียนชั้น ป.4 ที่เกิดความคิดต่างกัน ระหว่างการร้องเพลง และการแสดงซูปเปอร์ฮีโร่  การโหวตเพื่อเลือกข้างทันที นั้นคือประชาธิปไตยจริงหรือ ???  เอาล่ะ...เพื่อนๆ ในห้องเรียนชั้น ป.4 จะทำอย่างไร ต้องติดตามชม

รายงานผลการศึกษา โครงการจัดทำคู่มือสิทธิเด็กกับแนวทางปกป้องเด็กจากสื่อออนไลน์

งานวิจัยที่ศึกษาข้อมูลสถานการณ์ ปัญหา ผลกระทบประเด็นการถูกกลั่นแกล้งออนไลน์ เพื่อนำมาเป็นแนวทางจัดทำคู่มือการปกป้องสิทธิเด็กในสื่อออนไลน์ สืบเนื่องจากปัญหาที่คุกคามเด็กทางสื่อออนไลน์ มักมาในรูปแบบของการโฆษณาแฝง การกลั่นแกล้งกันทางอินเทอร์เน็ต การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล โดยในยุคสังคม 4.0 ที่การสื่อสารทันสมัยด้วยระบบดิจิทัล พ่อแม่ผู้ปกครองไม่สามารถกันเด็กๆ ออกจากสื่อ Social Media ได้  ดังนั้นจึงเป็นที่มาในการวิจัยข้อมูลเพื่อสนับสนุนการริเริ่มโคงการจัดทำคู่มือหรือแนวทางการปกป้องเด็กจากสื่อออนไลน์ เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ในการดูแลเอาใจใส่ พูดคุย และทำความเข้าใจสื่อสารกับเด็ก ๆ ได้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน

การศึกษาความรุนแรงทางโซเชียลมีเดียและการรับรู้ของวัยรุ่น

งานวิจัยเพื่อศึกษารูปแบบ การรับรู้ ผลกระทบและวิธีการจัดการปัญหาความรุนแรงของวัยรุ่นไทยในสื่อโซเชียลมีเดีย สืบเนื่องจากสถานการณ์การรับสื่อของวัยรุ่นที่เปลี่ยนไป เมื่อก่อนพ่อแม่ และผู้ปกครองมักจะวิตกกังวลเรื่องสื่อโทรทัศน์ ว่าจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและการเรียนรู้ของเด็ก  ทว่าสื่อที่อยู่ใกล้ตัวเด็กและวัยรุ่น ซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในเวลานี้ คือสื่อ Social Media เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่าในยุคสื่อดิจิทัล ไม่มีเด็กคนไหนเลยที่ไม่เคยเล่นอินเทอร์เน็ต ดูสื่อต่างๆ ผ่านช่องทางนี้ ผลการศึกษาพฤติกรรมเด็กและวัยรุ่นครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกับกลุ่มเด็กวัยรุ่น อายุ 14 – 16 ปี ด้วยข้อมูลทางเอกสาร และการสนทนากลุ่ม  เก็บความคิดเห็นมาเป็นเข็มทิศนำทางแบบ 360 องศา  เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาและควบคุมรูปแบบสื่อต่าง ๆ ทาง Social Media ต่อไป

keyboard_arrow_up