สื่อการสอนเพื่อการสืบสานภูมิปัญญาล้านนา : การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ (1)
ด้วยความรักในธรรมชาติ และสนใจเรื่องผ้า ครูนุสรา เตียงเกตุ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้า จึงคิดค้น และทดลอง นำสีจากธรรมชาติจากพวกใบไม้ ดอกไม้ มาเป็นสีในการย้อมผ้า โดยในตอนที่ 1 นี้ ครูนุสราจะมาสอนเคล็ดลับในการย้อมผ้าขั้นพื้นฐาน ให้เริ่มจากผ้าผืนเล็ก เช่น ผ้าเช็คหน้า และผ้าเช็คตัวก่อน เทคนิคการย้อมให้สีติดทน อาจมีการนำน้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรด ที่ได้จากมะขาม มะกอก มะเกลือ สับปะรด และมะกรูด ส่วนน้ำด่าง ได้จากขี้เถ้า ปูนขาว เป็นต้น มาผสมกับสีที่เราสกัดจากดอกไม้ ใบไม้ เมล็ดผลไม้ต่าง ๆ ที่นำมาทำเป็นสีย้อมผ้า
พลังชาวเน็ตจะยิ่งใหญ่สักแค่ไหน
รับฟังเหตุผลของเขาที่มีความคิดแตกต่างบ้าง ถึงแม้เราไม่เข้าใจทั้งหมด อย่างน้อยๆ การรับฟัง ก็เป็นจุดเริ่มที่ดีของ การยอมรับความแตกต่าง พยายามแสดงความคิดเห็น ด้วยความเคารพหรือเหตุผล อย่าให้อารมณ์นาพาเราหลงประเด็น เปลี่ยนเป็นการโต้เถียงด้วยถ้อยคา หรือการใช้ความรุนแรงต่างๆจากสภาวะในปัจจุบันที่สังคมได้เปลี่ยนไปมาก
โลกของชานน
เมื่อชานน เด็กจากต่างจังหวัดต้องเข้ากรุงเทพฯ จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง??
ชายแขนเดียว
เรื่องราวของ "ชายแขนเดียว" และ "เทอร์โบ" สุนัขสุดที่รัก.....ของเขา
ร.๙ ในใจชน ตอน เรื่องเล่าชาวบางลำพู (ตอนที่ 2)
ธุรกิจเล็ก ๆ ย่านบางลำพู ยังคงมีความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ ถึงครั้งหนึ่งที่เคยมีโอกาสถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ห้าง ต.เง๊กชวน ผู้ผลิตแผ่นเสียงตรากระต่าย ที่เคยอัดเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ ร้านไทยนคร ผู้ผลิตเครื่องถมเงินถวายงานรับใช้ ต่างปลื้มปิติที่ได้รับตราตั้งพระราชทาน นับเป็นเกียรติยศสูงสุดของชีวิตและการดำเนินธุรกิจ และในวันที่คนไทยต้องโศกเศร้าอย่างหาใดเสมอเหมือน ชุมชนย่านบางลำพู ทั้งเจ้าของธุรกิจ ชาวบ้านทุกครัวเรือน และทุกศาสนา ต่างสมัครสมานสามัคคี ร่วมกันเป็นจิตอาสา เจริญรอยตามเบื้องยุคลบาทในการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน นำอาหารเครื่องดื่ม และบริการอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนที่เดินทางมาถวายอาลัยพระบรมศพในหลวง รัชกาลทื่ 9 อย่างมิเหน็ดเหนื่อย ต่างร่วมแรงร่วมใจทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ศูนย์รวมจิตใจคนไทยอันเป็นที่รักยิ่งตลอดกาล
ร.๙ ในใจชน ตอน เรื่องเล่าชาวบางลำพู (ตอนที่ 1)
การได้เกิดและเติบโตในย่านบางลำพู ที่อยู่ใกล้พระบรมมหาราชวัง และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ยังความปลาบปลื้มมาให้ผู้คนในชุมชนบางลำพู ไม่ว่าจะเป็นการได้มีโอกาสถวายการต้อนรับเมื่อครั้งเสด็จนิวัติผ่านถนนจักรพงษ์ การรับเสด็จเมื่อครั้งพระองค์ทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร การสนับสนุนการแปลคัมภีร์อัลกุรอานให้เป็นภาษาไทย เพื่อเผยแพร่หลักคำสอนให้กับพี่น้องชาวไทยมุสลิม แม้กระทั่งการได้ถวายเสื้อเชิ้ตแด่พระองค์และทราบว่าพระองค์ทรงใช้สวมใส่อย่างคุ้มค่า รวมถึงการนำแนวพระราชดำริโครงการจักรยานเผินน้ำมาผสานกับโครงการกังหันชัยพัฒนา เพื่อคืนความใสสะอาดให้กับคูคลองย่านบางลำพู เหล่านี้คือความประทับใจและจิตวิญญาณของลูกหลานชาวบางลำพู ที่จะดูแลชุมชนของตนเองให้เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า และอยู่ในความทรงจำตลอดไป
ร.๙ ในใจชน ตอน ชุมชนนางเลิ้ง
ชุมชนนางเลิ้ง เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่พสกนิกรจากรุ่นสู่รุ่นต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วยทรงเสด็จมายกช่อฟ้าให้กับวัดแคหรือวัดสุนทรธรรมทาน ซึ่งเป็นเพียงวัดราษฎร์หรือวัดของชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ก็ทรงให้ความสำคัญเสด็จมาชุมชนนางเลิ้งแห่งนี้ เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต ชุมชนนางเลิ้งต่างโศกเศร้าและเสียใจใหญ่หลวงนักเฉกเช่นคนไทยทั่วประเทศ จึงได้จัดการแสดง ละครชาตรี ชุด นางร้องไห้ การแสดงพื้นบ้านซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนนางเลิ้ง ถวายแด่พระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย ขับร้องเพื่อส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย โดยมีเนื้อหาพรรณนาในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของคนไทยทั้งผอง
ร.๙ ในใจชน ตอน เรื่องของปู่ทูแซะ
“เป็นครูใช่ไหม? ขอฝากเด็ก ๆ ด้วยนะ ช่วยสอนให้เขาเป็นคนดี” พระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ครูมิตร ครู กศน. อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้ยึดมั่นในพระราชดำรัสนี้ และเดินตามรอยเท้าพ่อเสมอ ครูมิตร มีโอกาสสอนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชาวเขาชาวดอยได้อ่านออกเขียนได้ เพื่อดำรงชีวิตอย่างไม่ลำบาก วันหนึ่งครูมิตรได้พบลูกศิษย์ ชื่อ อากาโหล ซึ่งเป็นทายาทของปู่ทูแซะ ผู้เฒ่าชาวอาข่าที่สมัยหนุ่มได้ต่อสู้กับกองกำลังขุนส่า เพื่อปกป้องบ้านเกิดไม่ให้ถูกยึดเป็นพื้นที่ผลิตยาเสพติด ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงทราบเรื่องจึงมาชื่นชม และพระราชทานนามสกุลให้ครอบครัวนี้ว่า พนานุรักษ์ แปลว่า ฝากป่าให้ดูแล เรื่องราวนี้ย้ำเตือนให้ครูมิตรและคนไทยทุกหมู่เหล่า ทั้งชาวไร่ชาวนา ชาวเขาชาวดอย ได้ตระหนักว่าในหลวงทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ และฝากฝังให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ดูแลซึ่งกันและกันเสมอ
ร.๙ ในใจชน ตอน เรื่องเล่าของในหลวงกับชายถอดเสื้อ
แนวทางคิดในทำงานของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ว่า “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” อาจเสมือนคำพูดที่สวยหรู แต่เมื่อคุณเสถียร วิริยะพรรณพงศา ผู้ทำหน้าที่สื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่ทำข่าว และมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณลุงดิลก ศิริวิลลภ ล่ามประจำพระองค์ในหลวง รัชกาลที่ 9 จึงได้รับรู้เหตุการณ์ที่ในหลวงทรงลงพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซาก ทำมาหากินลำบาก ในหลวงทรงเข้าถึงชาวบ้านทุกชนชั้น แม้กระทั่งคุณลุงที่ไม่ได้สวมเสื้อ และวิ่งหนีเมื่อเห็นในหลวง พระองค์ก็มิทรงถือสา และพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ อย่างเข้าใจ เพื่อนำมาพัฒนา เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพราชดำริ จ.นราธิวาส ในการบรรเทาทุกข์ให้ประชากรได้มีพื้นที่ทำกินไม่ลำบากอีกต่อไป
ร.๙ ในใจชน ตอน หนังสือของพ่อ (ตอนที่ 2)
ท่ามกลางพื้นที่แห่งความขัดแย้ง ความตายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นง่ายดาย แต่ไม่อาจทัดทานความเสียสละของคุณหมอชาวต่างชาติที่ทุ่มเทกำลังกายใจเต็มที่ในการช่วยเหลือชีวิตผู้เจ็บป่วย โดยมีความหวังว่าหากโลกนี้มีพระราชาเฉกเช่นในหลวง รัชกาลที่ 9 ความขัดแย้งในดินแดนนี้คงไม่เกิด ...เมื่อเราไม่อาจเปลี่ยนชะตาจึงต้องเรียนรู้ และยอมรับ เช่นเดียวกับวันที่คุณโตมร ศุขปรีชา ต้องเสียคุณพ่อไปอย่ากระทันหันโดยมิได้กล่าวคำลา ทว่าความสูญเสียที่สำคัญในชีวิตครั้งนั้น กลับเทียบเท่าไม่ได้กับความโศกเศร้าอาดูรของคนไทยทั้งแผ่นดิน เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสู่สวรรคาลัย
ร.๙ ในใจชน ตอน หนังสือของพ่อ (ตอนที่ 1)
จากหนังสือที่พ่อมอบให้ในวันคล้ายวันเกิด เมื่อตอนเรียนอยู่ประถมศึกษาปีทื่ 6 หนังสือปกแข็ง สีแดงเข้ม รวบรวมบทเพลงพระราชนิพนธ์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้จุดประกายสร้างแรงบันดาลใจด้านการดนตรีให้ คุณโตมร ศุขปรีชาในวัยเด็ก พัฒนา เติบโต เป็นความประทับใจภายใน เมื่อนึกถึงหนังสือเล่มนั้น พระปรีชาสามารถด้านการดนตรีของพระองค์ และบทเพลงสายฝน ที่ตนเคยเล่นอิเล็กโทนเมื่อยังเยาว์ ก็จะเกิดความรู้สึก “ยำเยง ยกย่อง ทว่าเต็มตื้น และสดชื่นอย่างยิ่ง”