ลดความกังวลเรื่องโควิด-19 ด้วยการหาสิ่งที่เราควรใส่ใจ
ในสถาการณ์ของการแพร่ระบาดเชื้อโรคอุบัติใหม่อย่างไวรัสโควิด – 19 เราควรมีวิธีการดูแลสภาพจิตใจของตนเอง ให้แบ่งเรื่องออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ควบคุมไม่ให้ปล่อยว่าง และหันมาใส่ใจในเรื่องที่เราควบคุมได้ อย่างเช่นการดูแลสุขภาพตนเองกันดีกว่า
วิธีดูแลใจตนเองและคนรอบข้างในช่วงโควิด-19 โดย ทีปัก โจปรา
ดร. ทีปัก โจปรา หนึ่งในคุรุผู้โด่งดังด้านการพัฒนาจิตวิญญาณ ชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย ได้ให้ข้อคิดในการรับมือความตื่นตระหนกจากวิกฤติโควิด 19 ไว้ดังนี้ ดูแลกายและใจให้รู้สึกดี , รับข่าวแต่พอดี , พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน , เท่าทันข้อมูลสถิติ และมีสติทุกเมื่อในการสื่อสาร
4 เรื่องที่ควรทำ และไม่ควรทำ เพื่อรักษากาย-ใจ ในสถานการณ์โควิด-19
ช่วงวิกฤติโควิด 19 คนไทยทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะดูแลตนเองทั้งกายและใจ เมื่อต้องอยู่บ้าน หรืออยู่รวม ด้วย 4 เรื่องที่ควรทำและไม่ควรทำ เอาเรื่องที่ควรทำเป็นหลักก่อน เราต้องดูแลสุขอนามัยให้ปลอดเชื้อ , ดูแลจิตใจให้ผ่อนคลาย , พูดจาอ่อนโยนให้กำลังใจกันและกัน และเมื่อมีโอกาสก็แบ่งปัน และช่วยเหลือกันและกัน
เมนูภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้ Day 5 : พบโอเอซิสที่ซ่อนอยู่
ค้นพบความลับ 5 ข้อ ของการมีความสุขในช่วงอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ส่วนใครที่เริ่มเหงา หรือคิดถึงครอบครัว เพื่อนฝูง โชคดีนะที่ยุคนี้เป็นยุคออนไลน์ อย่ารีรอสร้างกลุ่มสนทนาออนไลน์กันเลย เอาแบบเห็นหน้าคาตา หรือจะฟังแค่เสียงให้หายคิดถึงได้นะคะ เพราะความรักคือโอเอซิสเยียวยาใจได้อย่างดีเลย
เมนูภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้ Day 4 : อิ่มท้อง อิ่มใจ
บางทีในวิกฤติ ก็ปรับเป็นโอกาสได้ จากที่เคยกินแต่ข้าวนอกบ้าน เร่งรีบในแต่ละมื้ออาหาร วันนี้ เมื่อเรา “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ในสถานกาณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 นี้ เราลองหันมาปลูกพืชผักสวนครัว และลองเข้าครัวเพื่อทำเมนูอาหารแบบบ้าน ๆ แต่อร่อยสุดใจกันดู
เมนูภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้ Day 2 : สิ่งใหม่ๆ เริ่มได้ทุกวัน
การกักตัวอยู่บ้าน 14 วัน ในช่วงวิกฤติโควิด 19 ช่างแตกต่างจากภาพฝันที่หลายคนว่าสบาย ๆ เหมือนหยุดพักร้อน เพราะการอยู่บ้านนาน ๆ ในบรรยากาศเดิม ๆ อาจทำให้เราอึดอัด กังวล และเครียดได้ แต่ขอให้เราให้กำลังใจตนเองเสมอว่า สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นในวันใหม่เสมอ...พรุ่งนี้ย่อมดีกว่าวันนี้แน่นอน
เมนูภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้ Day 1 : ใจคือบ้านของเรา
มาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ที่รัฐบาลขอความร่วมมือคนไทยทั้งประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโตวิด 19 เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้หยุดเดินทางภายนอก เพื่อย้อนกลับมาภายในใจ ได้อยู่บ้าน อยู่กับตัวเอง และย้อนกลับมาฟังเสียงภายในของเรา ให้ตื่นรู้กับสถานการ์ต่าง ๆ มากกว่าการตื่นตระหนกกับสิ่งรอบตัว
รายงานการวิจัย โมเดลเชิงสาเหตุของสุขภาวะทางปัญญา ศาสนาและจิตวิญญาณ และดัชนีชี้วัดสุขภาพ โดยมีปัจจัยทางด้านจิตวิทยาด้านความคิด อารมณ์และสังคมเป็นตัวแปรส่งผ่าน
รายงานการศึกษาถึงความเชื่อมโยงของสุขภาวะทางปัญญา ปัจจัยทางจิตวิทยา และการเคลื่อนไหวทางกาย โดยทีมอาจารย์ผู้วิจัยจากคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ JAI Center ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยประเด็นนี้ครั้งแรกของประเทศไทย ที่ยืนยันว่า สุขภาวะทางปัญญาทำให้ผู้คนมีความผาสุกทางจิตใจ และเอื้อให้เกิดพฤติกรรมสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะการลดพฤติกรรมเนือยนิ่งและเพิ่มการมีกิจกรรมทางกาย โดยงานวิจัยครั้งนี้ศึกษาในกลุ่มตัวอย่างชาวไทย จำนวน 473 คน อายุเฉลี่ย 34.99 ปี
1ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต
แม้เราจะเสียชีวิตแต่ชีวิตเราจะไม่สูญเปล่า เมื่อเราเลือกที่จะเป็นผู้ให้เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการบริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตให้ผู้ที่รออวัยวะและรอการปลูกถ่ายอวัยวะ ขอเพียงอายุไม่เกิน 65 ปี สุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคติดเชื้อ หรือโรคร้ายแรง เราก็สามารถบริจาคอวัยวะได้ สนใจบริจาคอวัยวะ โทร. 1661 หรือผ่าน แอปพลิเคชัน “บริจาคอวัยวะ”
อาสารับฟัง ฟังยังไงให้เข้าไปถึงหัวใจ
การฟังให้เป็น ฟังเสียงแล้วเข้าอกเข้าใจไปถึงหัวใจคนพูด ฟังแล้วไม่ตัดสินให้เขาทุกข์ใจไปมากกว่าเดิม ฟังแล้วให้อีกฝ่ายวางใจ กล้าที่จะบอกเล่าสิ่งที่อยู่ในใจออกมา ต้องทำยังไง?นี่เป็น 7 ขั้นตอนในการรับฟังที่อยากให้ทุกคนลองนำไปใช้กันดู
ฟังเสียงเพื่อนซึมเศร้า
ถ้าคนรอบข้างป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรืออยู่ในภาวะซึมเศร้า หลายครั้งที่เขามาปรึกษาคุณ แต่อาการเขาก็กลับยังไม่ดีขึ้น จนคุณกลายเป็นทุกข์ไปด้วยรึเปล่า? บางครั้งการพยายามจะช่วยหาทางออกให้คนที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยเขา นอกเหนือจากการที่ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพียงแค่คุณเป็นพื้นที่รับฟังที่ดีให้กับเขา ก็ช่วยเยียวยาเขาได้มากแล้ว แต่ทุกวันนี้คุณคิดว่าคุณฟังเขาเป็นหรือยัง? ถ้ายัง หรือว่าไม่ชัวร์... คลิปนี้จะช่วยคุณเข้าใจเรื่องการฟังใหม่อีกครั้ง