อรุโณทัยแห่งการตื่นรู้ สู่การขยายมวลความสุข
รู้หรือไม่ว่าในวันวันหนึ่งเราใช้สมองส่วนไหนในการดำรงชีวิตมากที่สุด สมองส่วนหน้าส่วนที่ใช้สติปัญญาไตร่ตรอง ส่วนกลางส่วนของความรู้สึก หรือว่าส่วนหลังที่เป็นส่วนที่ดึกดำบรรพ์ที่สุดเพียงเพื่อเอาชีวิตรอดไปวันๆ อรุโณทัยแห่งการตื่นรู้สู่การเคลื่อนขยายมวลความสุข โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ประเวศ วะสี เป็นหนังสือที่พูดถึงการสร้างสุขภาวะทางปัญญา เพื่อการตื่นรู้ในระดับจุลภาคไปสู่ระดับมหภาค ด้วยการใช้สมองส่วนหน้าที่เป็นส่วนของมนุษย์ขั้นสูงในการเข้าถึงความเป็นจริง เพื่อให้เรารู้เท่าทันตนเองและเข้าใจความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลก รวมถึงการสร้างสังคมแห่งการตื่นรู้หรือสังคมยุคสมองส่วนหน้า ซึ่งเราทุกคนล้วนเป็นฟันเฟืองตัวหนึ่งหรือหนึ่งในมวลสารแห่งความสุขที่จะช่วยขับเคลื่อนสังคมไปสู่สังคมแห่งอารยะ
โควิดกับการตื่นรู้
ก่อนหน้านี้ เราใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุขบนบทบาทวิถีแห่งความเร่งรีบ แต่โลกก็ต้องหยุดชะงักลง เพราะเกิดปรากฏการที่ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยผู้คนสวมใส่หน้ากากอนามัย ภายหลังที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ผู้คนต่างล้มตายกันราวกับใบไม้ร่วง โควิดกับการตื่นรู้ บทความสร้างการตระหนักรู้ เพื่อให้เราใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ ด้วยข้อคิดจากธรรมะ ที่จะช่วยให้เรารู้เท่าทันความคิดตนเองและยอมรับว่าทุกสิ่งในโลกล้วนแล้วไม่อาจหนีพ้นกฏเกณฑ์ความจริงของธรรมชาติไปได้
3 ข้อดีของโควิด-19 จากพระไพศาล วิสาโล
บทสนทนาตอบข้อสงสัยของทางโลกด้วยทางธรรมระหว่าง ธนญชัย ศรศรีวิชัย หรือ ต่อ ฟีโนมีน่า ผู้กำกับหนังชื่อดัง กับพระไพศาล วิสาโล เพื่อส่งต่อข้อคิดดีๆ ให้แก่สังคมไทยในวันที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งของสถานการณ์อันวิกฤตที่หลายคนอาจไม่เคยนึกถึง เรื่องโอกาสในการเรียนรู้..การยอมรับความจริง โอกาสในการเรียนรู้การมีสติและโอกาสแสดงความเอื้อเฟื้อ..ให้แก่กันและกัน เพื่อให้เราดำรงชีวิตในช่วงวิกฤติของโรคระบาดได้อย่างเท่าทันและมีความตระหนักรู้
ร่วมสร้าง ชุมชนแห่งความตื่นรู้ ขับเคลื่อนสังคมสู่สันติสุขอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันเราต่างดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับข้อมูลผ่านสื่อดิจิทัล ความเปลี่ยนแปลงของสังคม ที่นำมาซึ่งความขัดแย้ง ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจที่อาจทำให้หลายคนตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะผ่านมันไปได้อย่างไร? โครงการขับเคลื่อนสังคมแห่งการตื่นรู้สู่หนึ่งเดียวกัน โดยมูลนิธิสหธรรมมิกชน มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างวัฒนธรรมแห่งความตื่นรู้ให้ผลิบานขึ้นในสังคม เชื่อมผู้คนให้เกิดขึ้นเป็นชุมชนเล็กๆ ที่แลกเปลี่ยนการเรียนรู้และสร้างการเติบโตทางจิตวิญญาณ เพื่อให้ทุกชีวิตสามารถยืนหยัดอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงได้
บทสนทนาเปลี่ยนโลก เปลี่ยนเรา
บทความสนทนาของเช้าธรรมดาๆ วันหนึ่งที่กระตุกให้ผู้คนตื่นรู้ ของคุณนันท์ วิทยดำรง โปรดิวเซอร์ระดับตำนานแห่งวงการทีวีไทย นักเขียน นักแปลหนังสือด้านจิตวิญญาณและหนึ่งในผู้ชำนาญการด้านการมองความงามของชีวิต กับประสบการณ์ ตัวตนในอดีต จิ๊กซอว์ต่อชีวิต ไปสู่วิถีแห่งการตื่นรู้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความพึงพอใจในชีวิตในระดับจิต เมื่อความตระหนักรู้เกิด “ความหยั่งรู้” จะเกิดตามมา ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะทำให้เกิดมิติการมองโลกที่เปลี่ยนไป พาให้เราก้าวพ้นจากความคิดที่ยึดมั่นถือมั่น เพื่อกลับไปสู่ตัวตนที่แท้จริงของเรา
ก๊อต จิรายุ ชวนเปิดประสบการณ์ หัวใจตื่นรู้ ชมสารคดีค้นหาความหมายแท้จริงของชีวิต
ก๊อต จิรายุ นักแสดงมากฝีมือ กับบทความแบ่งปันประสบการณ์การตื่นรู้ร่วมในโครงการ We Oneness หรือโครงการขับเคลื่อนสังคมแห่งการตื่นรู้สู่หนึ่งเดียวกัน ภายใต้กิจกรรมการเปิดตัวสารคดี “หัวใจตื่นรู้” กับมุมมองการเล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้ ก๊อต หันมาสนใจเรื่องการตื่นรู้ ความหมายของความสุขและความทุกข์ที่แท้จริง อะไรที่ทำให้เรามีความสุขที่ปราณีตมากขึ้น รวมถึงการได้ค้นพบคุณค่าในตัวตนและเข้าใจพลังภายในของเราที่มีทั้งพลังสร้างสรรค์และพลังทำลายล้าง
New Heart New World 2 ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
“เวลา” ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ หากเราเรียนรู้ที่จะอดทนฝึกฝนในสิ่งที่เราทำด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ New Heart New World 2 ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ ช่างภาพสัตว์ป่า กับประสบการณ์การเรียนรู้และพัฒนาตนเองจากการเฝ้าสังเกตสังคมของสัตว์ป่าและได้เรียนรู้ว่าทุกชีวิตในธรรมชาติมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันและมีการเกื้อกูลช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่ต่างไปจากสังคมของมนุษย์เรา อีกทั้งธรรมชาติในป่ายังได้มอบบทเรียนแห่งความใจเย็นในการรอคอยและเรียนรู้ที่ปรับเปลี่ยนตัวเอง ไม่กังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงและใช้เวลาทุ่มเทกับสิ่งที่เราทำในปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่อความสำเร็จที่จะตามมาในวันข้างหน้า
รวม 40 ประสบการณ์จริง 40 เส้นทางสู่การตื่นรู้ - ยุพิน ประเสริฐพรศรี
ยุพิน ประเสริฐพรศรี หรือ เมย์ นักวิจัยอิสระทางด้านสังคมศาสตร์ และเป็นกระบวนกรเพื่อพาคนฝึกฝนด้านการเติมเต็มพลังชีวิต การตื่นรู้และการเยียวยา ได้ร่วมแบ่งปันมุมมอง “การตื่นรู้” ที่ได้จากการเรียนรู้พลังธรรมชาติ การฝึกฝนตัวเองบนวิถีแห่งการภาวนา การเจริญสติ เพื่อสร้างการตระหนักรู้ รู้สึกตัว ไม่โอนเอียนไปกับกระแสแห่งการบริโภคจนเกินตัวและเข้าใจความหมายของชีวิตในการดำรงอยู่ เพื่อปรับตัวยอมรับการเปลี่ยนแปลงและก้าวข้าม
รวม 40 ประสบการณ์จริง 40 เส้นทางสู่การตื่นรู้ - ดร.เมธา หริมเทพาธิป
ดร.เมธา หริมเทพาธิป อาจารย์ประจำหลักสูตรปรัชญาดุษฏีบัณฑิต สาขาปรัชญาและจริยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาและเลขาธิการมูลนิธิสหธรรมมิกชน บทสนทนามุมมองเส้นทางการ ”ตื่นรู้” การมี ”สติ” มี “ความรู้สึกตัว” ตื่นเพื่อเข้าถึงความเป็นธรรมดาที่เรียบง่ายที่สุด ตื่นเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่อยู่กับปัจจุบัน มีความรักและพลังบวกที่สามารถมอบให้กับคนรอบข้างได้อย่างจริงใจ แม้ดูเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่แก่นแท้แล้ว คือสิ่งที่งดงามและทรงพลังที่สุด
รวม 40 ประสบการณ์จริง 40 เส้นทางสู่การตื่นรู้ - ภัทรมน วิเศษลีลา
คุณภัทรมน วิเศษลีลา เจ้าของบ้านไม้หอม พระราม 2 บ้านหลังงามท่ามกลางธรรมชาติ ที่เปิดบ้านให้กลายเป็นพื้นที่เรียนรู้ “ตัวเอง” ได้ร่วมแบ่งปันเรื่อราวเส้นทางสู่การตื่นรู้ “ความรู้สึกตัว” เท่านั้น ที่เป็นมิตรแท้ ที่ช่วยให้ก้าวข้ามความยากในชีวิตไปได้ เพราะเมื่อตื่นรู้ตัว เกิดการยอมรับ ความเข้าใจ ความคิดจะไม่พาไปฟุ้ง ปรุง หรือ แต่ง ไม่ติดอยู่กับอดีต ไม่กังวลกับอนาคต เพราะความสุขเกิดขึ้น ณ ที่ปัจจุบันขณะ
รวม 40 ประสบการณ์จริง 40 เส้นทางสู่การตื่นรู้ - ตา สุรางคนา สุนทรพนาเวช
ตา-สุราคนา สุนทรพนาเวช อดีตรองนางสาวไทย และดารานักแสดงผู้มากฝีมือ เคยผ่านช่วงเวลาความเป็นความตายด้วยการเป็นมะเร็งที่ท่อน้ำดี ความทุกข์ทรมานในครั้งนั้น จึงคิดว่าการเกิดทำใหเป็นทุกข์ แต่เมื่อได้รับโอกาสจึงตัดสินใจศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิสหธรรมมิกชน เพื่อศึกษาเรื่องการตื่นรู้ หรือ การกลับมาอยู่ภายในตนเอง กลับมาอยู่กับตนเองอย่างซื่อตรง
รวม 40 ประสบการณ์จริง 40 เส้นทางสู่การตื่นรู้ - เมย์ลภัส บุญสิทธิ์วิจิตร
เมย์ลภัส บุญสิทธิ์วิจิตร ผู้บริหารโค้ชชิ่ง (จิตตปัญญาศึกษา) ครั้งหนึ่งในอดีตเคยคิดสงสัยในชีวิตว่าเราเกิดมาทำไม จนกระทั่งวันหนึ่งได้มารับหน้าที่แม่ จากที่เคยคิดว่าชีวิตประสบความสำเร็จสามารถโค้ชผู้อื่นได้ แต่กับตนเองในความเป็นแม่ ได้แต่สงสัยว่า “ฉันจะเป็นแม่ที่ดีได้อย่างไร?” มันไม่มีกฎตายตัวเลย จึงเริ่มหันมาอยู่กับตัวเอง ฝึกฝนการภาวนา เปิดตาภายใน จึงพบว่าเราไม่รู้ แล้วทำอย่างไรจึงรู้ นั่นคือ การตื่นรู้คือการกลับมาสัมผัสกับธรรมชาติของใจเราอย่างซื่อตรง ยอมรับว่า “ลูกไม่ใช่ของเรา” จากนั้นก็ต้อนรับกับความจริงว่า “แม่อาจมีอิทธิพลในการเติบโตของลูกทั้งกายและใจ แต่ก็ไม่มีอำนาจใดที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นปัจเจกของลูกได้ ...การเป็นแม่จึงค้นพบความตื่นรู้ในใจตน...