สำหรับผู้บกพร่องการมองเห็น
สำหรับบุคคลทั่วไป สมัครเพื่อดาวน์โหลดไฟล์สื่อต่างๆ ภายในเว็บไซต์
ค้นหา
คุณ นันท์ วิทยดำรง นักเขียน กับกระบวนการทางความคิด เรื่องราวส่วนประกอบที่ทำให้เรากลายมาเป็นเราจนถึงทุกวันนี้ การสืบค้นจิตใจของมนุษย์และการบันทึกความรู้สึกของตัวเอง เพื่อให้เรากลับมาอยู่กับตัวเอง สำรวจ สังเกตและทบทวนความคิดของเรา ที่เป็นตัวก่อให้เกิด ”อัตตา” ความอยาก การตัดสินผู้คน รวมไปถึงการฝึกปล่อยวาง ลดละตัวตนและรู้เท่าทันความคิดของเรา ซึ่งการรู้เท่าทันความคิดของเราจะเป็นตัวช่วยให้เรามีความสุขกับชีวิต มีจิตใจที่อ่อนโยนและเข้าใจสรรพสิ่งในธรรมชาติมากขึ้น "ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องกลับมาอยู่กับตัวเอง จะอยู่กับการเคลื่อนไหวของตัวเองก็ได้ จะอยู่กับใจของตัวเองก็ได้ มันทำให้เราเห็นกระบวนการการเกิดของมัน พอเราเห็นกระบวนการการเกิดของมัน ชำนาญๆขึ้น เราก็จะชำนาญการละวางมันง่ายขึ้น รู้ทันมันง่ายขึ้น ผมไม่ได้หมายความว่าทุกวันนี้มันไม่มีอารมณ์ ไม่ได้ไม่โกรธไม่อะไร แต่เรารู้สึกว่ามันไวขึ้น มันง่ายขึ้น มันมาน้อย มันมาแล้วเดี๋ยวมันก็ไปแล้ว" นันท์ วิทยดำรง นักเขียน
คุณ เฟิร์ส คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์ นักร้องนำวง Slot Machine กับมุมมองการตื่นรู้ เป้าหมายและจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต ทั้งเรื่องการทำงานและตัวตน จากคนที่เคร่งเครียดเข้าไม่ถึง ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองและตัวตนด้วยการเปิดใจลดละตัวตน ไม่แบ่งแยก มีความอ่อนโยนและเห็นใจคนรอบข้างมากขึ้น รวมถึงการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการเรียนรู้และเข้าใจกับปัญหา เพราะเบื้องหลังของทุกปัญหาและความทุกข์นั้นมีความสุขที่ซ่อนอยู่ "ถ้าสูบน้ำออกจากโลกหมดเลย แผ่นดินมันติดกันหมดเลยนะ เราเองต่างหากที่มาแบ่งกันเอง นี่คือของฉัน นี่คือของเธอ" "มันเริ่มมาจากเราอยากเข้าใจข้างนอกก่อน พอเราอยากเข้าใจข้างนอกเยอะๆ มันก็ย้อนกลับมาว่า ถ้าเราเข้าใจตัวเองมากเท่าไหร่ ผมคิดว่าเราเข้าใจทั้งจักรวาลได้ คือมากกว่าโลกอีก โลกทั้งใบนี้จริงๆแล้วอยู่แค่ที่ตัวเรา" เฟิร์ส คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์ นักร้อง / ศิลปิน
คุณเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้บอกเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาในชีวิต จุดเปลี่ยนของชีวิตที่ได้สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม รวมไปถึงการตื่นรู้ รู้เท่าทันตัวเอง การยอมรับที่จะกลับมาพิจารณาตัวเอง ลองเปิดใจปรับมุมมองและพิจารณาปัญหาด้วยความเข้าใจ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมที่เริ่มต้นได้จากตัวเอง "ผมเป็นมนุษย์ทั่วไป อยากมีเงิน ทุกวันนี้ก็มีหนี้สิน มีสิ่งที่จะต้องจ่าย แต่ผมก็รู้สึกว่า ถ้าจะต้องยอมทำบางเรื่องที่รู้สึกว่ามันฝืนใจ ถ้าต้องไปช่วยคนที่ผิด มันก็อาจทำให้เรารู้สึกย้อนแย้งในใจเราเอง เราทนไม่ไหวอ่ะ" "เคยทำงานแม้กระทั่งไม่มีเงินจะจ้างเพื่อนร่วมงาน มีผมทำคนเดียว เงินจะลงพื้นที่ยังไม่มีเลย แต่มันไม่ใช่ข้อจำกัดอ่ะ เราเคยลำบากกว่านี้มาแล้ว เคยผ่านอะไรที่โหดร้ายกว่านี้มาแล้ว ดังนั้นนี่มันจิ๊บจ๊อยมาก ท้องเราอิ่มอยู่ เรามีลมหายใจอยู่" เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายฯ มูลนิธิกระจกเงา
คุณวิศิษฐ์ วังวิญญู นักเขียนและกระบวนกรกับชีวิตในอุดมคติ ยุคสมัยของสังคมที่ให้ความสำคัญกับความคิดในการแก้ปัญหาโดยปราศจากความรักความอ่อนโยนและได้พูดถึงเรื่องราวทั้งสามช่วงของชีวิต ที่เป็นจุดที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับตัวตนด้วยการตื่นรู้ “การตื่นรู้นี้” จะทำให้เราหันกลับมาพิจารณาตัวเรา พิจารณาความกระด้างของเรา ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีความอ่อนโยนมากขึ้นและทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นได้ เมื่อเรามีความสุขมากขึ้น สุขภาพก็จะดีขึ้นตามไปด้วย "ในวัยหนุ่ม ผมรักไม่เป็น ผมคิดว่ารัก มันรักด้วยสมอง เป็นผู้ชายที่ไม่มีความอ่อนโยน - แล้วผมก็ค่อยๆกลับมาเปลี่ยน ทำยังไงจะอ่อนโยน ทำไงจะมีความรักที่ผู้อื่นสัมผัสได้" "พอเราไม่รู้ตัว เราจะกลับไปสู่ความเคยชิน พอเราตื่นรู้ตัวมากขึ้นความกระด้าง ความอะไร เราก็เริ่มเห็น เราก็เลือก ไม่เลือกกระด้าง แต่เลือกความอ่อนโยน" วิศิษฐ์ วังวิญญู นักเขียน / กระบวนกร
คุณโตมร ศุขปรีชา นักเขียน กับการเปิดมุมมองทางความคิด ความทุกข์ ความสุขที่ปะปนกันอยู่ในทุกขณะและการเปลี่ยนมุมมองการมองโลกด้วยการอ่านหนังสือ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยขยายพรมแดนทางความคิด ขยายจิตใจให้กว้างขึ้นและยังทำให้เราค้นพบโลกอีกใบ “ที่ดีกว่า” โลกที่ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างปราศจากการตัดสิน เพื่อให้เราหันกลับมาดูตัวเองและตั้งคำถามกับโลกในปัจจุบันของเราว่าที่จริงแล้วเป็นอย่างไร "ตอนนั้นมีความสุขมากๆกับทุกอย่าง แต่ทันใดนั้นมันก็พัง เราคิดว่ามีสติ แต่เราไม่มี เห็นทุกข์มาเป็นก้อนๆ แต่มันน่าสนใจที่มันไม่ได้มาตลอดเวลา มันมาเป็นก้อน แล้วก็จะมีบางช่วงที่มันคลายลง ตอนนั้นได้เห็นเลยว่าไม่มีอะไรที่มาแล้วอยู่กับเราไปถาวร" "ชีวิตเป็นทุกข์ ไม่ได้หมายความว่า เรานั่งอยู่ตรงนี้แล้วเราไม่ทุกข์ มันทุกข์อยู่ตลอดเวลา โดยที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว ต่อให้ตอนที่เรามีความสุข มันก็มีความทุกข์อยู่ด้วย" โตมร ศุขปรีชา นักเขียน
ครูดล ธนวัชร์ เกตม์วิมุต นักพูดและผู้สอนเครือข่ายชีวิตสิกขา ได้พูดถึงความเป็นมาในชีวิต การพูดคุยกับผู้ป่วยระยะสุดท้าย การเตรียมพร้อมกับความตายและจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ ที่ช่วยสร้างความปีติ ความสงบให้เกิดขึ้นจากภายใน สร้างการตื่นรู้ ช่วยลดละความอยาก มีความใจเย็นและอดทนมากขึ้น ซึ่งต้นทุนจากการนั่งสมาธิเหล่านี้ สามารถนำมาประยุกต์ได้กับทุกเรื่องในชีวิตของทุกคน "เรามีต้นทุนพร้อมที่จะเตรียมตัวตายอยู่แล้ว เวลาไปเยี่ยมผู้ป่วย ทำไมบางคนรู้สึกห้อมล้อมด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ ร่างกายสงบ จิตสงบ ทำไมบางคนทุรนทุราย ไม่ได้มีเหตุบังเอิญ แต่มันสะท้อนได้เลยว่า เพราะเขาเคยใช้ชีวิตกันมาอย่างไร ช่วงนี้แหละเป็นช่วงที่มาพิสูจน์ เฉลยว่า กำลังจะไปไหนต่อ" ครูดล ธนวัชร์ เกตม์วิมุต นักพูด / ผู้สอน, เครือข่ายชีวิตสิกขา
พระโพธินันทะ กับหนทางแห่งความว่างเปล่า หรือ “สุญญตา” และการใช้ชีวิตอยู่บนฐานแห่งปัญญาญาณ ด้วยการมองเห็นตัวตนและละทิ้งตัวตนทางความคิด เพราะโลกแห่งความคิด คือ โลกแห่งมายา การทำให้ใจว่างเปล่าด้วย ”การตื่นรู้” ทำได้โดยการสังเกตความคิดและชำเลืองใจของเราอย่างมีสติ ซึ่งจะช่วยให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างรู้เท่าทันความคิดของตัวเราเอง ไม่ยึดติด ไม่แบ่งแยกหรือตัดสิน เพราะเมื่อเราใจว่าง ตัวตนหายไป เราจะรับรู้ได้ว่าทุกสรรพสิ่งเป็นเอกภาพเดียวกันกับเรา "ความคิดสร้างความรู้สึกว่ามีตัวเราขึ้นมา "ฉัน" "กู" แล้วก็ทำให้เกิดความเปรียบเทียบ ให้ค่าตัดสิน ลงความเห็นที่ขัดแย้ง สูงต่ำ ดำขาว ยาวสั้น เย็นร้อน ถูกผิด แล้วเราก็ยึดติดในความเห็นนี้ ยึดติดในสิ่งที่มากระทบ ใครว่าเราเป็นหมู เป็นหมา เราโกรธใช่ไหม ความยึดติดเหล่านี้แหละ คือปัญหาของชีวิตเรา" พระโพธินันทะ
ดร. ณัชร สยามวาลา นักเขียน กับความสุขของ “การตื่นรู้” สัญลักษณ์ของความทุกข์ ประสบการณ์เฉียดตายและจุดเปลี่ยนของชีวิตกับการฝึกฝนวิชาเจริญสติ ที่ทำให้ค้นพบความปีติที่แท้จริงจากการทำสมาธิ เกิดการเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น เพราะสติช่วยให้เรารู้เท่าทันปัญหา สร้างเหตุแห่งความทุกข์ใหม่น้อยลงและรับมือกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีสติรู้เท่าทัน อีกทั้งทำให้ความทุกข์นั้นหายไปเร็วขึ้น "จริง ๆ ธรรมะอยู่ในชีวิตเราอยู่แล้ว เพียงแต่คนนั้นจะเห็นหรือเปล่า กายกับใจนี่ก็ธรรมะ ถ้าเราสังเกตดี ๆ มันสอนเราตลอด เมื่อกี้ หิว เดี๋ยวง่วง เดี๋ยวเบื่อ เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวอยากทำโน่น เดี๋ยวไม่อยากทำแล้ว นี่มันแสดงธรรมะตลอดเวลาอยู่แล้ว ทำให้เห็นว่าใจไม่เที่ยง ไม่มีอะไรเป็นอย่างนั้นตลอดกาลชั่วกัลปาวสาน ...มันเปลี่ยนตลอดเวลา" ดร.ณัชร สยามวาลา
คุณวีรยา โอชะกุล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ได้พูดถึงวิถีการทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ว่า แม้ตนเองจะเป็นผู้หญิงที่มาเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งต้องทำงานเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย ต้องดูแลทีมที่มีหลากลายความคิดและบุคลิก แต่ตนก็ใช้ความพยายาม ความทุ่มเทในการทำงาน เพื่อสร้างการยอมรับของทีมด้วยความเข้าใจกันและกัน "เวลาทำงานไม่ได้คิดนะว่าตัวเองจะเป็นยังไง แต่ถ้าถาม ถ้าถูกยิง ณ วันนี้ ตาย จะเสียดายในสิ่งที่คิดว่าจะทำ ยังไม่ได้ทำ มันมีอะไรที่อยากทำ เห็นปัญหาแล้วอยากแก้ พี่เป็นโรคจิตอยู่อย่างเห็นปัญหาไม่ได้ จะโดดใส่ทันที เดินไปหาปัญหา เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้จะตาย ไม่เสียใจ" "ถ้าย้อนกลับไป พี่จะทำเหมือนเดิมทุกอย่างที่พี่ทำมา เพราะพี่มั่นใจแล้วว่าสิ่งที่พี่ทำอยู่ พี่พอใจกับมันแล้ว" วีรยา โอชะกุล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก
ผมคิดว่ามีคำตอบหนึ่งที่เราตอบได้เสมอทุกวันวัย และสถานการณ์ นั่นคือ "เราเกิดมาเพื่อรักและถูกรัก" ความหมายของคำตอบนี้คือ เราเกิดมาเพื่อเชื่อมโยงกับสิ่งต่าง ๆ กับคนอื่น ๆ ในโลก เราเกิดมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโลกและสรรพสิ่ง เราเกิดมาเพื่อรับรู้ว่ามีบางสิ่งบางคนประคับประคองให้เรามีชีวิตอยู่ ต้นไม้ให้ออกซิเจน ผีเสื้อผสมเกสร เมฆกลั่นตัวเป็นฝนลงมา เป็นน้ำให้เราดื่มกิน มีพ่อครัวทำอาหารให้เรา มีช่างตัดเสื้อทำเสื้อผ้า ให้เราใส่ มีแม่ที่เลี้ยงดูเรามา มีพ่อขับรถส่งเราไปโรงเรียน มีครูคอยสอนสั่ง มีเพื่อนคอยเฮฮา มีคนรักคอยให้กำลังใจ มีอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่ประคับประคองชีวิตของเราเอาไว้ เราเกิดมาเพื่อรับรู้ถึงความเชื่อมโยงเหล่านี้ สัมผัส รับรู้ ดื่มด่ำ และเป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่ง ที่ประกอบกันเป็นชีวิตเรา สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม)
"ด้วยความวิตกกังวลว่าลูกจะเป็นเด็กอินเตอร์ไปจนหมด จึงอยากพาลูกมาใกล้ชิดความเป็นไทย รวมทั้งศาสนา... ไปได้คอรสปฏิบัติ 7 วันที่ลำปาง ผู้ใหญ่ก็อยู่ดูแลเด็ก ดุไปดูมาก็เกิดความสนใจ ประโยคที่ได้ยินตอนนั้น ท่านบอกว่า "นิพพานน่ะ ง่ายนิดเดียว 7 วัน ก็เป็นนิพพานได้ มาลองดูก็ได้ มาม้้ยล่ะ" ก็เลยตกปากรับคำท่านไป...พอวันที่ 3 เราเห็นบางสิ่งบางอย่าง อย่างที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้สึกมาก่อน" ธเนศ วรากุลนุเคราห์ นักร้อง / นักแต่งเพลง
ขอเชิญร่วมสัมผัสประสบการณ์ตื่นรู้ครั้งใหม่ จากผู้รู้ตื่น 12 ท่าน ธนวัชร์ เกตน์วิมุต (ครูดล) - ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ - พระโพธินันทะ สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม) - พ่อผาย สร้อยสระกลาง - ดร.ณัชร สยามวาลา วีรยา โอชะกุล - นันท์ วิทยดำรง - คาริญญย์วัฒ ดุรงค์จิรกานต์ (เฟิด Slot Machine) โตมร ศุขปรีชา (หนุ่ม) - วิศิษฐ์ วังวิญญู - เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข (เอก กระจกเงา) ใน NEW HEART NEW WORLD 3 : หัวใจตื่นรู้
กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร