Filter
ประเภทสื่อ
ประเภทสื่อ "รายการโทรทัศน์" พบ 56 ข้อมูล

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.9 (ตอน ช้างโทนเกเร และ เกิดปีอะไร)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.9 สนุกไปกับ 2 นิทานทุ่งซ่า เรื่องแรกตอน ช้างโทนผู้เกเร เป็นเรื่องเล่าจากคุณตา จ.กาญจนบุรี เล่าถึงวีรกรรมแสนเกเรของช้างโทน ที่ชอบรังแกสัตว์น้อยใหญ่ในป่า  อยู่มาวันหนึ่งนกกระจิบ และเพื่อนพ้องตัวเล็กๆ ได้ร่วมพลังสามัคคีกันล้มช้างโทน  เพื่อให้บทเรียนและเตือนสติช้างโทนให้กลับตัวกลับใจไม่เกเรต่อไป ส่วนเรื่องที่สอง สนุกกับนิทานทุ่งซ่า ตอน เกิดปีอะไร เล่าเรื่องโดย คุณตา จ.เชียงราย เป็นตำนานของหมาและแมว ย้อนไปในอดีตหมาและแมวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะต่างมีชาวบ้านเก็บมาเลี้ยงดูในบ้านเดียวกัน แต่อยู่มาวันหนึ่งเกิดหมาเกิดอยากรู้ว่าแมวเกิดปีอะไร  เพราะคนเป็นพี่จะมีสิทธิ์สั่งให้คนน้องหรือคนเกิดหลังทำอะไรก็ได้ แต่แมวไม่ยอมบอก จึงทะเลาะกัน สองตัวร้องขู่กันเสียงดัง กลายเป็นที่มาของหมากับแมวที่ไม่ถูกกันและเสียงร้องของทั้งคู่ในปัจจุบัน ท้ายรายการชวนกันไปเรียนรู้เรื่องการแยกขยะ และนำกล่องวัสดุเหลือใช้มาทำเป็นตุ๊กตาน่ารัก

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.10 (ตอน ชายขี้เกียจ และ ตอน ลูกแมวเอาแต่ใจ)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.10 เรียนรู้เรื่องราวสนุก ๆ จากนิทานทุ่งซ่า ตอน ชายขี้เกียจ  เป็นเรื่องเล่าจากภาคเหนือ เนื้อเรื่องกล่าวถึงชายคนหนึ่งที่ตอนเป็นเด็กไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ ลาออกมาตั้งแต่ ป.4 ยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มาทำอาชีพหาของป่า อยู่มาวันหนึ่งเกิดหลงป่า และอ่านป้ายเตือนหน้าถ้ำไม่ออก จนทำให้ประสบกับความยากลำบาก ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน ลูกแมวเอาแต่ใจ เป็นนิทานจากภาคอีสาน เล่าถึงแมวแม่ลูกที่อาศัยอยู่กับเศรษฐีอย่างสุขสบาย อยู่มาวันหนึ่งไฟไหม้บ้านเศรษฐี แมวแม่ลูกจึงต้องมาเลี้ยงดูตัวเอง ในแต่ละวันแม่แมวต้องไปหาอาหารมาให้ลูกแมวกินเสมอ เพราะลูกติดความสบายเมื่อสมัยอยู่บ้านเศรษฐี พอแม่แมวไม่สบาย หาอาหารมาให้ลูกกินไม่ได้ ลูกแมวก็ออกฤทธิ์เอาแต่ใจ เที่ยวตามหาแม่ใหม่มาให้ตนเอง จนสุดท้ายได้เรียนรู้ว่า ไม่มีแม่ที่ไหนดีเท่าแม่ของเราเอง ท้ายรายการชวนเด็ก ๆ มาทำนาฬิกาสำหรับนักเล่านิทาน งานศิลปะที่ช่วยให้การเล่านิทานสนุกยิ่งขึ้น

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.11 (ตอน ตาบอดอยากกินแกงไก่ และ ตอน นกกระยางเจ้าเล่ห์)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.11 นำเสนอนิทานทุ่งซ่า ตอน ตาบอดอยากกินแกงไก่ เป็นเรื่องเล่าจาก จ.พัทลุง เล่าเรื่องสองเกลอจอมขโมยที่คนหนึ่งตาบอด คนหนึ่งตาดีแต่ชอบผายลมเสียงดัง ทั้งสองวางแผนจะไปขโมยไก่ของชาวบ้านมาแกงกิน ด้วยความโลภทั้งสองจึงขโมยไก่มากมายหลายตัว จนสุดท้ายไก่หลุดมือ และมีเสียงผายลมดังขึ้น ผลของกรรมที่ก่อไว้จึงตามมาสนอง ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน นกกระยางเจ้าเล่ห์ นิทานจาก จ.กาญจนบุรี เล่าถึงนกกระยางที่ออกอุบายบอกว่าจะพาเหล่าปลาน้อยใหญ่ที่บ่อน้ำแห่งหนึ่ง ไปอาศัยอยู่บ่อน้ำแห่งใหม่ที่ใสสะอาดน่าอยู่ โดยเสนอว่าจะคาบปลาไปส่งที่บ่อน้ำแห่งใหม่ทีละตัว จนในที่สุดปลาเหล่านั้นก็ตกเป็นอาหารอันโอชะของนกกระยางเจ้าเล่ห์ จนกระทั่งมีเพื่อนปูสองตัวที่เกิดความเฉลียวใจ จึงปราบความเจ้าเล่ห์ของนกกระยางได้สำเร็จ ท้ายรายการ ชวนเด็ก ๆ มาทำลูกข่างจากวัสดุธรรมชาติ เช่น มะเขือเปาะ แครอท ฯลฯ

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.12 (ตอน เจ้าวัวเห็นแก่ตัว และ ตอน มือใหญ่ หูกาง ก้นแหลม ขี้มูกเยอะ)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.12 นำเสนอนิทานทุ่งซ่าตอนแรกเรื่อง เจ้าวัวเห็นแก่ตัว นิทานจาก จ.เชียงใหม่ เล่าถึงวัวและควายซึ่งเป็นเพื่อนเดินทางของพ่อค้าเร่ที่หาบสิ่งของมากมายเพื่อเดินทางเข้าเมือง แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวของวัวที่ต้องการสบาย จึงออกอุบายแกล้งทำขาเจ็บ จนพ่อค้าต้องแบ่งของทั้งหมดมาให้ควายแบกแทน แต่สุดท้ายควายแบกไม่ไหวจึงสิ้นใจตาย สุดท้ายวัวจึงต้องรับภาระทั้งหมดของควายไว้เพียงผู้เดียว ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน มือใหญ่ หูกาง ก้นแหลม ขี้มูกเยอะ เป็นนิทานจากภาคใต้ เล่าถึงสี่เกลอผู้มีลักษณะเด่น คนหนึ่งมือใหญ่ คนหนึ่งหูกาง และอีกสองคนก็มีก้นแหลมและขี้มูกเยอะ ความไม่เหมือนคนอื่นทำให้รู้สึกอับอายไม่มั่นใจ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ผจญภัยกับพายุ แต่ทั้งสี่ก็รอดชีวิตกันมาได้ กลายเป็นเพื่อนที่ดีร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันเสมอมา ท้ายรายการ ชวนเด็ก ๆ มาทำเบ็ดตกปลาแม่เหล็ก เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กและประสาทสัมผัสด้วยการเล่นอย่างสร้างสรรค์   

รายการทุ่งซาวาไรตี้ Ep.13 (ตอน พรของเสือ และ ตอน กินข้าวเหลือ)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.13 มีนิทานทุ่งซ่ามาให้สนุกกัน 2 ตอน ตอนแรกเรื่อง พรของเสือ เป็นนิทานเรื่องเล่าจากภาคใต้ จ. พัทลุง เล่าถึงตำนานการมีลูกของเสือว่าสาเหตุที่เสือมีลูกน้อย เพราะไปขอพรจากพระอินทร์ให้มีลูกได้ครั้งละหลายตัว พระอินทร์ให้แต่มีข้อแม้ว่าระหว่างเดินทางกลับจะต้องท่องพรที่ขอไว้ตลอดว่า “ปีละหนึ่งครอกๆ ละ 7 ตัว” ข่าวรู้ถึงชาวบ้านก็เกิดความหวาดกลัว จึงไปขอร้องให้พระอินทร์ช่วยสร้างอุปสรรคให้เสือท่องผิดเป็น “ 7 ปีหนึ่งครอกๆ ละ 1 ตัว” ส่วนนิทานทุ่งซ่าเรื่องที่สอง ตอน กินข้าวเหลือ เป็นนิทานจากภาคกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเรื่องของ 2 ครอบครัวที่ฐานะต่างกัน ครอบครัวหนึ่งร่ำรวย แต่กินทิ้งกินขว้าง กับอีกครอบครัวที่ฐานะยากจนแต่ขยันขันแข็งและประหยัดอดออม เมื่อเกิดศึกสงครามข้าวยากหมากแพง ครอบครัวที่ประหยัดอาหารการกินไว้ก็อยู่ได้ไม่ลำบาก ส่วนครอบครัวร่ำรวยแม้มีเงินก็ไม่สามารถซื้อข้าวกินได้ ปิดท้ายรายการด้วยกิจกรรมสนุกกับเงา ให้เด็กๆ ไม่กลัวความมืดและสนุกอย่างสร้างสรรค์กับจินตนาการ

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.14 (ตอน ชาวนากับงูเหลือม และ ตอน คำสอนของอาจารย์)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.14 พบกับนิทานทุ่งซ่า ตอน  ชาวนากับงูเหลือม เป็นนิทานจากภาคเหนือ จ.เชียงราย เล่าถึงชาวนาผู้หนึ่ง เป็นคนดี ใจบุญสุนทาน ขยันขันแข็งทำมาหากินเลี้ยงชีพ วันหนึ่งเกิดพลัดหลงกับควายของตนเอง จึงเดินตามหาในป่าลึก พบกับงูเหลือมที่จะมาทำร้ายตนเอง แต่ด้วยคุณงามความดีที่ทำไว้ สัตว์ร้ายต่าง ๆ จึงไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ชาวนาได้ ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน  คำสอนของอาจารย์ เป็นนิทานของ จ.พัทลุง เล่าถึงอาจารย์ที่มอบคำสอนให้กับลูกศิษย์ซึ่งร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้จนจบและจะเดินทางกลับบ้านว่า “อยู่สูงให้นอนคว่ำ อยู่ต่ำให้นอนหงาย” ซี่งเมื่อลูกศิษย์เชื่อฟังคำสอนของอาจารย์เช่นนี้ จึงทำให้พวกเขารอดพ้นจากอันตรายต่าง ๆ ระหว่างการเดินทาง ปิดท้ายด้วยการประดิษฐ์หุ่นเงา ให้การเล่นหุ่นเงามีสีสันที่หลากหลาย

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.15 (ตอน ยาวิเศษ และ ตอน ทำคุณไม่ขึ้น)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.15 พบกับนิทานทุ่งซ่า ตอน ยาวิเศษ จาก จ.อุบลราชธานี เล่าถึงอาการประหลาดของเจ้าเมืองนครแห่งหนึ่งที่เป็นโรคเบื่ออาหาร ใครทำอะไรมาให้ก็ไม่ยอมกิน จนวันหนึ่ง ”บักเซี่ยงเมี่ยง” รู้ข่าว จึงบอกว่าจะพาเจ้าเมืองไปหายาวิเศษ เพื่อรักษาอาการประหลาดนี้ แต่ต้องเข้าไปหาในป่าลึกด้วยตนเอง และห้ามกินอะไรเลยจนกว่าจะได้ยา เจ้าเมืองรับปากทำตาม แต่ยังไม่ทันเจอยาวิเศษใด ๆ เลย เจ้าเมืองก็หายจากอาการประหลาดนี้แล้ว เพราะว่าได้ออกแรงจึงทำให้กินอาหารอร่อย ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน ทำคุณไม่ขึ้น จากภาคเหนือ จ.เชียงราย เล่าถึง “ลุงหนาน” ผู้ทำคุณไม่ขึ้น ไปช่วยชีวิตกวางจากการถูกงูเหลือมกิน ก็ถูกกวางก็ต่อว่าว่าจับตนเพราะหวังเอาเขากวางไปขาย พอไปช่วยผู้หญิงที่ถูกปูหนีบ ก็ถูกตบหน้าและว่าว่าหลอกลวง สุดท้ายลุงหนานท้อไม่อยากทำความดีต่อไป เทวดาเห็นจึงยืนมือมาช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ลุงหนาน ปิดท้ายด้วยการชวนเด็ก ๆ ไปสนุกกับการละเล่นพื้นบ้าน 'อีตัก' ได้เรียนรู้เมล็ดพืชทั้งถั่วแดง ตะบูน น้อยหน่า ฯลฯ

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.16 (ตอน เกือบจะทิ้งพ่อ และ ตอน เศรษฐี ลูกชายและม้า)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.16 พบกับนิทานทุ่งซ่า ตอน เกือบจะทิ้งพ่อ เป็นนิทานจากภาคกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าถึงลูกชายคนหนึ่ง ที่มีฐานะยากจน มีภรรยาและลูก 3 คนที่ต้องเลี้ยงดู และยังต้องดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับพ่อของตนเองที่ชราและตาบอด จึงวางแผนจะนำพ่อของตนเองไปทิ้งเพราะไม่อยากรับภาระ แต่แล้วก็คิดได้และสำนึกผิดว่าเมื่อถึงตนเองชราบ้าง ลูกๆ ที่พบตัวอย่างไม่ดีของพ่อที่ทำกับปู่ ก็จะต้องทิ้งพ่อคือตนเองด้วยเช่นกัน ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน เศรษฐี ลูกชายและม้า เป็นนิทานจากภาคใต้ จ.พัทลุง เล่าถึงครอบครัวเศรษฐี ที่มีชีวิตสุขสบายตามประสาพ่อแม่ลูก  มาวันหนึ่งภรรยาล้มป่วย  จึงเสียเงินเสียทองรักษาไปจำนวนมาก ทรัพย์สมบัติเริ่มร่อยหรอจนเหลือม้าเพียงตัวเดียว จึงตัดสินใจนำม้าไปขายในเมือง ระหว่างที่เดินทางไปนั้น ชาวบ้านต่างซุบซิบนินทาการจูงม้า ของเศรษฐีและลูกมาตลอดทาง ปิดท้ายด้วยกิจกรรมฝึกความคิดสร้างสรรค์ให้เด็ก ๆ ด้วยการทำเรือจากกาบมะพร้าวและวัสดุธรรมชาติ

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.17 (ตอน งูเขียวเกียจคร้าน และ ตอน ควายป่ากับคนตัดฟืน)

รายการทุ่งซ่าวาไรตี้ Ep.17 นำเสนอนิทานทุ่งซ่า ตอน งูเขียวเกียจคร้าน เป็นนิทานจากภาคอีสาน จ.มหาสารคราม เล่าถึงแม่งูเขียวที่ฟูมฟักเลี้ยงดูลูกๆ ให้ออกจากไข่และออกไปหากินเอง จนเหลือเพียงไข่ฟองสุดท้ายที่แตกออกมาเป็นงูเขียวน้อยจอมขี้เกียจ ไม่ยอมไปหากินเอง  ได้แต่กินแล้วก็นอนในรังของตนเอง จนท้ายที่สุดก็กัดกินตนเองจนหายไป ต่อด้วยนิทานทุ่งซ่า ตอน ควายป่ากับคนตัดฟืน เป็นนิทานจาก จ. พัทลุง ภาคใต้ เล่าถึงคนตัดฟืน ที่สามารถต่อสู้กับควายป่าจอมอันธพาลได้สำเร็จ และสุดท้ายก็ได้ควายป่ามาเป็นสมาชิกในการแบกฟืนกลับบ้านอีกหนึ่งตัว ปิดท้ายด้วยกิจกรรมเล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการทำการ์ดป๊อบอัพอนุรักษ์ควายป่า

keyboard_arrow_up

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้และ นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่.