ประเภทสื่อ
แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ
สื่อสร้างสรรค์ของภาคี จำนวนทั้งหมด 255 ข้อมูล

ท่าพระ ชุมชนเศรษฐกิจ อดีตชุมทางการค้าภาคอีสาน

เสียงฉึกกะฉัก...ฉึกกะฉัก...ของรถไฟดังขึ้นครั้งแรกในชุมชน “ท่าพระ” หนึ่งใน 18 ตำบลของอำเภอเมืองขอนแก่น จากชุมชนเล็กๆ ที่มีผู้คนอาศัยอยู่เพียง 2 – 3 ครอบครัว เริ่มมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งไม่ได้มีแค่คนไทยแต่ยังมีคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่หอบเสื่อผืนหมอนใบ มาตั้งหลักปักฐานบนแผ่นดินนี้ เกิดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีตลาดสถานีรถไฟที่พ่อค้าแม่ขายได้นำสินค้ามาจำหน่าย แม้จะเป็น “ตลาดแบกะดิน” หรือตลาดที่ขายของบนพื้น แต่ตลาดแห่งเดียวกันนี้ก็นับว่าเป็นศูนย์กลางทางการค้า เพราะนอกจากชาวท่าพระแล้วยังมีชาวบ้านจากอำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม และใกล้เคียง บ้างเดินเท้า บ้างนั่งเกวียนเพื่อนำ “ของป่า” มาขายให้คนท่าพระและพ่อค้าคนกลางที่จะนำสินค้าเหล่านั้นไปขายในกรุงเทพมหานคร รายได้จากการขายของป่าก็นำมาซื้อข้าวของกลับไปขายต่อให้คนในหมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป วิธีนี้ช่วยให้ชาวโกสุมพิสัยและใกล้เคียงไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงในตัวจังหวัดขอนแก่นเพราะมีแม่น้ำชีขวางกั้นการสัญจรค่อนข้างลำบาก สำหรับ “ของป่า” ที่ว่านั้น ชาวท่าพระผู้เป็นบุคคลอาวุโสได้บอกเล่าให้ฟังว่า ของป่าเป็นสินค้าชาวบ้านนิยมขาย ได้แก่ มะขามเปียก ครั่ง นุ่น ปอ ข้าว เศรษฐกิจท่าพระในขณะนั้นจึงคึกคักมาก ทำให้บริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟมีการปลูกสร้างบ้านเรือนมากขึ้น

แชร์ได้ แชร์ดี

สื่อโปสเตอร์ผลงานของนายศุภกร บัวลา วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) จ.ปทุมธานี ได้รับรางวัลที่ 1 ประเภทสื่อโปสเตอร์ จากการประกวดสื่อสร้างสรรค์โครงการ 'จิตอาสาพลังแผ่นดิน:ทำดี ทำได้ทุกวัน เริ่มต้นวันนี้' ผลงานชิ้นนี้มีแนวคิดสะท้อนอีกแง่มุมหนึ่งของพลังของการแชร์เรื่องราวในโลกออนไลน์ จากความดีเล็ก ๆ ในตัวเรา เมื่อได้แบ่งปันออกไป ก็อาจจะกลายเป็นพลังที่ใหญ่ขึ้น นำไปช่วยชีวิตคนอื่นได้ เหมือนถุงเลือดในภาพ ที่สามารถนำไปช่วยผู้ป่วยได้ต่อไป เปรียบได้เหมือนกับ พลังความดีที่พวกเราแบ่งปันมารวมกัน ความจริงก็ไม่ได้หายไปไหนไกล ท้ายสุด มันก็ย้อนกลับมาหาตัวเรา เป็นประโยชน์กับตัวเราด้วยนั่นเอง

Small man

ผลงานภาพยนตร์สั้น Small man นี้เป็นผลงานของเยาวชนทีม Matchstick Production จาก วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับรางวัลที่ 3 จากการประกวดสื่อสร้างสรรค์ประเภทภาพยนตร์สั้นโครงการ 'จิตอาสาพลังแผ่นดิน : ทำดี ทำได้ทุกวัน เริ่มต้นวันนี้' ภาพยนตร์เรื่องนี้หยิบเอาความฝันของเด็กผู้ชายเกือบทุกคนบนโลก ที่ครั้งหนึ่งต้องเคยฝันอยากเป็น Superhero ผ่านการเดินเรื่องโดยตัวละครหลัก 'ด.ช.เล็ก' ที่เชื่อมั่นว่าตัวเขาเองมีพลังดั่ง Superhero และด้วยความเชื่อนี้เอง ได้พาให้เล็กต้องไปพบเจอกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ท้าทายและสั่นคลอนความเชื่อมั่นในพลังของตัวเองจนเกือบถอดใจ แต่แล้วท้ายสุด เล็กก็ได้คำตอบให้กับตัวเองว่า แท้จริงแล้วพลังเล็ก ๆ ของเขานั้นมีคุณค่าและมีความหมายอย่างไร

สมุดบันทึกความดีของจ่อย

ภาพยนตร์สั้นเรื่องสมุดบันทึกความดีของจ่อย เป็นผลงานของน้อง ๆ เยาวชนทีม MAB48 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้รับรางวัลที่ 2 จากการประกวดสื่อสร้างสรรค์ประเภทภาพยนตร์สั้นจากโครงการ 'จิตอาสาพลังแผ่นดิน : ทำดี ทำได้ทุกวัน เริ่มต้นวันนี้' โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งคำถามถึงความหมายของความดีผ่านเหตุการณ์ของตัวละครหลักคือ ด.ช.จ่อย ที่ได้รับมอบหมายจากคุณครูให้ต้องทำสมุดบันทึกความดี แต่ด้วยชีวิตประจำวันที่จ่อยต้องช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยวทุกวัน ไปโรงเรียนสาย ทำการบ้านสมุดบันทึกความดีไม่ทัน จ่อยจึงถูกสถานการณ์บีบคั้นว่าจะไม่ได้เลื่อนชั้น ในขณะที่เพื่อน ๆ ที่ทำความดีในโรงเรียนหรือแม้แต่เขียนบันทึกความดีขึ้นมาด้วยตัวเองกลับผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างสบาย ๆ หนังตั้งคำถามให้คนดูช่วยกันขบคิดว่า สิ่งใดมีความหมายถึงการทำความดีที่แท้จริง? 

Dancing to the Moon

ภาพยนตร์สั้นเรื่อง Dancing to the Moon เป็นผลงานของน้องเยาวชนทีม Trive ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดสื่อสร้างสรรค์ประเภทภาพยนตร์สั้นจากโครงการ 'จิตอาสาพลังแผ่นดิน : ทำดีทำได้ทุกวัน เริ่มต้นวันนี้' เนื้อหาของหนังสั้นเรื่องนี้สะท้อนแนวคิดถึงคำว่าจิตอาสาว่ามีความหมายกว้างและใกล้ตัวมากกว่าที่เราเคยคิด แค่ทำสิ่งที่เราชอบ แต่มีความหมายกับใครบางคน ก็เป็นหนึ่งในงานจิตอาสาเช่นเดียวกัน โดยถ่ายทอดแนวคิดผ่านเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่รักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อชีวิตไม่อาจเดินตามฝันใช้การเต้นเพื่อการประกวดคว้ารางวัลที่ฝันใฝ่ แต่ในอีกด้าน เขากลับเดินไปพบความหมายจากการเต้นครั้งใหม่ ที่ทุกจังหวะคือการต่อเติมความฝันและความสุขให้ใครอีกคนหนึ่ง และสุดท้าย สิ่งที่เขาได้รับก็ยิ่งใหญ่และงดงามกว่าที่รางวัลใด ๆ จะให้ได้

 

ร.๙ ในใจชน ตอน หนังสือของพ่อ (ตอนที่ 2)

ท่ามกลางพื้นที่แห่งความขัดแย้ง ความตายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นง่ายดาย  แต่ไม่อาจทัดทานความเสียสละของคุณหมอชาวต่างชาติที่ทุ่มเทกำลังกายใจเต็มที่ในการช่วยเหลือชีวิตผู้เจ็บป่วย โดยมีความหวังว่าหากโลกนี้มีพระราชาเฉกเช่นในหลวง รัชกาลที่ 9 ความขัดแย้งในดินแดนนี้คงไม่เกิด ...เมื่อเราไม่อาจเปลี่ยนชะตาจึงต้องเรียนรู้ และยอมรับ เช่นเดียวกับวันที่คุณโตมร ศุขปรีชา  ต้องเสียคุณพ่อไปอย่ากระทันหันโดยมิได้กล่าวคำลา ทว่าความสูญเสียที่สำคัญในชีวิตครั้งนั้น กลับเทียบเท่าไม่ได้กับความโศกเศร้าอาดูรของคนไทยทั้งแผ่นดิน  เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสู่สวรรคาลัย

ร.๙ ในใจชน ตอน เรื่องเล่าของในหลวงกับชายถอดเสื้อ

แนวทางคิดในทำงานของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ว่า  “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” อาจเสมือนคำพูดที่สวยหรู แต่เมื่อคุณเสถียร วิริยะพรรณพงศา ผู้ทำหน้าที่สื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่ทำข่าว และมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณลุงดิลก ศิริวิลลภ ล่ามประจำพระองค์ในหลวง รัชกาลที่ 9 จึงได้รับรู้เหตุการณ์ที่ในหลวงทรงลงพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซาก ทำมาหากินลำบาก ในหลวงทรงเข้าถึงชาวบ้านทุกชนชั้น แม้กระทั่งคุณลุงที่ไม่ได้สวมเสื้อ และวิ่งหนีเมื่อเห็นในหลวง  พระองค์ก็มิทรงถือสา และพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ อย่างเข้าใจ เพื่อนำมาพัฒนา เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพราชดำริ จ.นราธิวาส ในการบรรเทาทุกข์ให้ประชากรได้มีพื้นที่ทำกินไม่ลำบากอีกต่อไป

ร.๙ ในใจชน ตอน เรื่องของปู่ทูแซะ

“เป็นครูใช่ไหม? ขอฝากเด็ก ๆ ด้วยนะ ช่วยสอนให้เขาเป็นคนดี”  พระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ครูมิตร ครู กศน. อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้ยึดมั่นในพระราชดำรัสนี้ และเดินตามรอยเท้าพ่อเสมอ ครูมิตร มีโอกาสสอนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชาวเขาชาวดอยได้อ่านออกเขียนได้ เพื่อดำรงชีวิตอย่างไม่ลำบาก วันหนึ่งครูมิตรได้พบลูกศิษย์ ชื่อ อากาโหล ซึ่งเป็นทายาทของปู่ทูแซะ ผู้เฒ่าชาวอาข่าที่สมัยหนุ่มได้ต่อสู้กับกองกำลังขุนส่า เพื่อปกป้องบ้านเกิดไม่ให้ถูกยึดเป็นพื้นที่ผลิตยาเสพติด ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงทราบเรื่องจึงมาชื่นชม และพระราชทานนามสกุลให้ครอบครัวนี้ว่า พนานุรักษ์ แปลว่า ฝากป่าให้ดูแล เรื่องราวนี้ย้ำเตือนให้ครูมิตรและคนไทยทุกหมู่เหล่า ทั้งชาวไร่ชาวนา ชาวเขาชาวดอย ได้ตระหนักว่าในหลวงทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ และฝากฝังให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ดูแลซึ่งกันและกันเสมอ

ร.๙ ในใจชน ตอน ถวายจงรักด้วยอักษรา (ตอนที่ 1)

คุณชมัยภร แสงกระจ่าง ได้ถ่ายทอดความจงรักภักดีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9 ตั้งแต่ครั้งผู้เขียนยังวัยเยาว์ ผ่านเรื่องราวอันแสนประทับใจที่เล่าผ่านคุณยาย ว่าพระองค์ทรงเป็นพระราชาที่ต้องกราบไหว้จากหัวใจ ด้วยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถ ทรงเป็นนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ สู้กับความปวดร้าวของชาวไทย สู้กับความยากไร้ของแผ่นดิน โครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ได้บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ปวงประชาราษฎร์ในแผ่นดินของพระองค์ให้อยู่เย็นเป็นสุขมาตลอด 60 ปีที่ทรงครองราชย์ และพระองค์ยังทรงงานหนักโดยมิหยุดหย่อน ตราบที่พระวรกายยังแข็งแรง  พระองค์ทรงดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรของพระองค์เสมอมา

keyboard_arrow_up

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้และ นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่.